คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ และกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวผลการตัดสินรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2563

มหาวิทยาลัยมหิดล จัดประชุมชี้แจงแนวทางการยื่นข้อเสนอโครงการ เพื่อขอทุนจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ทุนประเภท Basic Research Fund ประจำปีงบประมาณ 2565
November 12, 2020
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล จัดงานครบรอบ 49 ปี คล้ายวันสถาปนาสถาบันฯ
November 13, 2020

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ และกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวผลการตัดสินรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2563

mahidol-6

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ประสิทธิ์  วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ในฐานะรองประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์  นายธานี  แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ฯ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์   และศาสตราจารย์ นายแพทย์วิจารณ์ พานิช ประธานคณะกรรมการรางวัลนานาชาติ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ แถลงผลการตัดสินผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ครั้งที่ 29 ประจำปี  2563 ณ ห้องสมเด็จพระบรมราชชนก   ตึกสยามินทร์  ชั้น 2  โรงพยาบาลศิริราช               

ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล

สาขาการแพทย์ ได้แก่ ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์วาเลนติน ฟัสเตอร์ (Valentin Fuster, M.D., Ph.D.) สหรัฐอเมริกา

สาขาการสาธารณสุข ได้แก่ นายแพทย์เบอนาร์ด  พีคูล (Bernard Pécoul, M.D., MPH.) สาธารณรัฐฝรั่งเศส

ทั้งนี้ ในปี 2563 มีผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ทั้งสิ้น 44 ราย จาก 18 ประเทศ โดย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธาน พิจารณาตัดสินเป็นขั้นสุดท้าย เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2563

mahidol-49

ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ วาเลนติน ฟัสเตอร์  (Valentin Fuster, M.D., Ph.D.) ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี พ.ศ.2563 สาขาการแพทย์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการศูนย์โรคหัวใจและนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลเม้าท์ไซนาย นครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคหัวใจและหลอดเลือดแห่งชาติ กรุงมาดริด ประเทศสเปน หัวหน้ากองบรรณาธิการวารสารวิทยาลัยโรคหัวใจแห่งอเมริกา สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยบาเซโลน่า ประเทศสเปน  และดุษฎีบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยเอดินเบอระ สหราชอาณาจักร

ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์วาเลนติน ฟัสเตอร์  ทำการศึกษาวิจัยถึงบทบาทของเกล็ดเลือดในกระบวนการเกิดการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ รวมถึงประโยชน์ของการให้ยาต้านเกล็ดเลือดในการป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดที่นำมาใช้เป็นทางเบี่ยงภายหลังจากการผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ  โดยเริ่มในสัตว์ทดลอง และต่อมาได้ต่อยอดมาเป็นการศึกษาวิจัยในผู้ป่วย  แสดงให้เห็นเป็นครั้งแรกถึงประโยชน์ของการให้ยาต้านเกล็ดเลือดในการป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดที่นำมาใช้เป็นทางเบี่ยงภายหลังจากการผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจในผู้ป่วย อีกทั้ง องค์ความรู้ที่ได้นี้มีส่วนทำให้เกิดการพัฒนาแนวคิดในการสร้างขดลวดค้ำยันชนิดเคลือบยา เพื่อนำมาใช้ในผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูนและใส่ขดลวด องค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยของ ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ฟัสเตอร์ ได้ช่วยทำให้อัตราการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตในผู้ป่วยลดลงอย่างมาก และยังช่วยปรับปรุงให้การดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

จากผลงานของ ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ วาเลนติน ฟัสเตอร์ ที่เชื่อมโยงนำเอาองค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยพื้นฐาน ไปต่อยอดจนกระทั่งเกิดเป็นองค์ความรู้ใหม่ที่ถูกนำไปใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดหัวใจตีบตัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยชน์ของการให้ยาต้านเกล็ดเลือดในการป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดที่นำมาใช้เป็นทางเบี่ยงภายหลังจากการผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดที่ตีบตัน ผลงานนี้ได้ช่วยชีวิตผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันนับล้านคนทั่วโลก

mahidol-19

นายแพทย์เบอนาร์ด พีคูล   (Bernard Pécoul, M.D., MPH.) ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี พ.ศ.2563 สาขาการสาธารณสุข ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการบริหาร องค์กรจัดหายาสำหรับโรคที่ถูกละเลย Drugs for Neglected Diseases initiative (DNDi) สาธารณรัฐฝรั่งเศส

นายแพทย์เบอนาร์ด พีคูล มีบทบาทในการจัดตั้งองค์กรจัดหายาสำหรับโรคที่ถูกละเลย (Drugs for Neglected Diseases initiative, DNDi) และเป็นผู้อำนวยการบริหารในองค์กรแพทย์ไร้พรมแดน (Médecins Sans Frontières) ซึ่งเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ที่ก่อตั้งเพื่อให้ความช่วยเหลือในการเข้าถึงยาจำเป็นของกลุ่มประเทศในแอฟริกา ลาตินอเมริกา และเอเซีย

ในขณะที่ทำงานในประเทศยูกันดา นายแพทย์พีคูล พบมีการใช้ยา เมลาโซพรอล (Melarsoprol) ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของสารหนูในการรักษาผู้ป่วยที่เป็น โรคแอฟริกัน ทริปาโนโซมิเอซิส (African trypanosomiasis) หรือ โรคเหงาหลับ (Sleeping sickness) และพบผู้ป่วย 1 ราย ใน 20 รายที่ได้รับอนุพันธ์นี้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ที่มีการขาดยารักษาที่มีประสิทธิภาพและมีผลข้างเคียงที่รุนแรงนี้ ทำให้ นายแพทย์พีคูล ตัดสินใจจัดทำ โครงการจัดหายาสำหรับโรคที่ถูกละเลย (Drugs for Neglected Diseases initiative DNDi) ขึ้น ในปี พ.ศ.2546 เพื่อพัฒนาการรักษาที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ราคาไม่แพง สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคที่ถูกละเลย

ภายใต้การบริหารของ นายแพทย์พีคูล โครงการจัดหายาสำหรับโรคที่ถูกละเลย ได้ขยายเป็นองค์กรวิจัยและพัฒนาที่ไม่แสวงหาผลกำไร สร้างความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนหลากหลายองค์กร อาทิ มูลนิธิบิลเกตส์ เวลคัม ทรัส หน่วยงานในยุโรปและบริษัทยาหลายแห่งจนถึงปัจจุบัน ก่อให้เกิดวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคที่ถูกละเลย รวม 8 ชนิด รักษาโรคมาลาเรีย โรคเหงาหลับ โรค Visceral leishmaniasis  และโรค Chagas disease

ยาเหล่านี้ถูกบรรจุให้เป็นแนวทางในการรักษาโรค ที่องค์การอนามัยโลกแนะนำให้เป็นยารักษาตัวแรกสำหรับโรคที่ถูกละเลย (Neglected tropical diseases) ในหลายประเทศ ขณะนี้มีการพัฒนาสารใหม่มากกว่า 20 ชนิด  และมีการศึกษาทดลองทางคลินิกมากกว่า 20 การศึกษา

ในฐานะผู้อำนวยการ นายแพทย์พีคูล ได้ประสานงานวิจัยและร่วมมือพัฒนา ริเริ่มและบริหารจัดโครงการวิจัย ซึ่งประกอบ ด้วยทีมงานและนักวิทยาศาสตร์ที่ดำเนินโครงการในส่วนต่างๆ ของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแอฟริกาและลาตินอเมริกา โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งมอบการรักษาใหม่ที่มีประสิทธิภาพจำนวน 16 ชนิดจาก 18 ชนิด สำหรับโรคที่ถูกละเลยให้แก่ผู้ป่วย ภายในปี พ.ศ.2566 จนถึงปัจจุบัน DNDi ได้ส่งมอบยาใหม่ถึง 8 ชนิด ซึ่งช่วยรักษาชีวิตของผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก

ผลงานของ นายแพทย์เบอนาร์ด พีคูล  ได้มีส่วนสำคัญในการลดอัตราการเสียชีวิตและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชากรนับล้านคนทั่วโลก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชากรในประเทศกลุ่มกำลังพัฒนาหรือประเทศที่มีรายได้น้อย ที่เจ็บป่วยด้วยโรคที่ถูกละเลย