คณะพยาบาลศาสตร์ ม.มหิดล จัดประชุมวิชาการนานาชาติ “Challenges in NCDs management to achieve the SDGs in the COVID-19 era and beyond”

มหาวิทยาลัยมหิดล จัดประชุมกำหนดนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) สำหรับสถาบันสมทบ
January 10, 2022
มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG Model สาขาเครื่องมือแพทย์ ครั้งที่ 1/2565
January 11, 2022

คณะพยาบาลศาสตร์ ม.มหิดล จัดประชุมวิชาการนานาชาติ “Challenges in NCDs management to achieve the SDGs in the COVID-19 era and beyond”

วันที่ 10 มกราคม 2565 ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติ Challenges in NCDs management to achieve the SDGs in the COVID -19 era and beyond” โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ยาใจ สิทธิมงคล คณบดี คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน ซึ่งคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ สมาคมศิษย์เก่าพยาบาลศิริราชในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลศิริราช จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 11 มกราคม 2565 ผ่านระบบออนไลน์ โดยการประชุมในครั้งนี้มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการพยาบาลให้สามารถปรับตัวรับมือ เพื่อลดอัตราการป่วยและเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในยุคโควิด-19

ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ กล่าวว่า กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ Non-communicable diseases (NCDs) นี้ ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตของผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เกิดความซับซ้อนและความท้าทายสำหรับผู้ให้บริการสาธารณสุขในการบริหารจัดการกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ (UN) ซึ่งเป็นนโยบายการขับเคลื่อนที่สำคัญของมหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ให้บริการด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะวิชาชีพพยาบาล จึงมีความสำคัญในการบริหารจัดการ และดูแลผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในการลดความรุนแรงของโรค รวมถึงลดจำนวนผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง การจัดการประชุมวิชาการนานาชาติในครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือที่เป็นพันธมิตรอย่างแข็งแกร่ง การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการจัดการและควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรังกับองค์กรต่างๆ ทั้งในระดับชาติ และนานาชาติ ซึ่งจะกลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการก้าวไปสู่เป้าหมายที่มหาวิทยาลัยมหิดลตั้งไว้

รองศาสตราจารย์ ดร.ยาใจ สิทธิมงคล กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เกิดจากการที่องค์การอนามัยโลก ได้ประกาศว่าปัจจุบันกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตทั่วโลก โดย 3 ใน 4 ของกลุ่มโรคนี้ถูกพบในประชากรของประเทศที่กำลังพัฒนาที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง รวมทั้งประเทศไทยด้วย ซึ่งประชากรของไทยประมาณ 14 ล้านคน ป่วยเป็นโรคดังกล่าว และเสียชีวิตถึง 300,000 คนต่อปี ซึ่งโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมีผลระยะยาวต่อสุขภาพและมีอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร จึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มเติมความรู้ เพื่อที่จะจัดการกับโรคให้บรรลุเป้าหมายตามที่องค์การอนามัยโลกและองค์การสหประชาชาติระบุไว้ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ควรทำให้ลดได้ประมาณร้อยละ 25 จึงจำเป็นต้องให้ความสนใจกับกลุ่มโรคติดต่อไม่เรื้อรังเป็นอย่างมาก สิ่งที่น่าสนใจคือ สถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดความท้าทายในการจัดการกลุ่มโรคนี้ เพราะจะพบว่ากลุ่มคนโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมีความเสี่ยงติดโควิด-19 แล้ว อาการของโรคมีความรุนแรงมากขึ้น  ทั้งนี้ผู้ป่วยเหล่านี้เมื่อล็อกดาวน์ไม่สามารถออกไปเลือกอาหารหรือออกกำลังกายได้ ทำให้โรครุนแรงขึ้นมากเช่นกัน จึงเกิดเป็นความท้าทายในการบริหารจัดการกลุ่มโรคดังกล่าว “เป้าหมายของการประชุมที่สำคัญคือ เราต้องเข้าใจว่าสถานการณ์โควิด-19 ทำให้นโยบายการจัดการโรคเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เราคาดหวังให้ผู้เข้าประชุมได้องค์ความรู้แล้วนำไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับหน่วยงานที่ทำงานอยู่ และอยากให้ทุกคนได้แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างวิชาชีพทั้งในประเทศด้วยกันเอง และนอกประเทศด้วย เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการร่วมมือแก้ปัญหาโรคติดต่อไม่เรื้อรังในอนาคต”

ในการนี้ มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ มาร่วมบรรยายในแต่ละหัวข้อที่มีความโดดเด่นในการจัดการด้านต่างๆ ดังนี้ Dr. Pem Namgyal The Director of Programme Management (DPM) องค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออก (SEARO) กล่าวถึง “การฟื้นฟูและพัฒนาระบบบริการสุขภาพจากสถานการณ์โควิด-19” Prof. Patricia Davidson, Ph.D., Med, RN., FAAN จาก University of Wollongong ประเทศออสเตรเลีย กล่าวถึง “เป้าหมาย SDGs การพัฒนาที่ยังยืนและความเชื่อมโยงในเรื่องความเหลื่อมล้ำความเท่าเทียมในสังคม” ดร.นายแพทย์ทักษพล ธรรมรังสี ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) กล่าวถึง “การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาผลลัพธ์ในการดูแลคนไข้โรคไม่ติดต่อเรื้อรังให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และคุ้มค่ามากที่สุด” Prof. Cheryl Dennison Himmelfarb, Ph.D., RN., ANP., FAAN จาก Johns Hopkins School of Nursing ประเทศสหรัฐอเมริกา “ได้แลกเปลี่ยนกรณีศึกษาหลังจากได้เคยใช้กลยุทธ์มาประยุกต์ใช้แก้ไขปัญหาความดันโลหิต ที่มีความแตกต่างไม่เท่าเทียมกันในการรักษา จะลดความเลื่อมล้ำในสังคมได้อย่างไร” และ ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึง “ความท้าทายของคนในสังคมเมืองในเรื่องการจัดการการเปลี่ยนแปลง ซึ่งโรงพยาบาลจะปรับตัวอย่างไร จะนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุดอย่างไร ให้กลุ่มคนเมืองกลายเป็นกลุ่มที่รักสุขภาพมากขึ้นและยั่งยืน”