คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยมหิดล รับฟังผลการดำเนินงานของส่วนงาน (University Council Visit : 4) ครั้งที่ 35/2568 ของ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล

วิทยาลัยนานาชาติ ม.มหิดล ร่วมกับ กรมการท่องเที่ยว และพันธมิตรกว่า 50 หน่วยงาน ขับเคลื่อนโครงการ “Thailand Green Tourism Plan 2030” ยกระดับการท่องเที่ยวยั่งยืนสู่มาตรฐานสากล
August 6, 2025
วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ ONYX Hospitality (Thailand) Co., Ltd. เพื่อพัฒนาบุคลากร
August 7, 2025

คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยมหิดล รับฟังผลการดำเนินงานของส่วนงาน (University Council Visit : 4) ครั้งที่ 35/2568 ของ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล

วันที่ 6 สิงหาคม 2568 ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วย กรรมการสภามหาวิทยาลัยมหิดล และทีมผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหิดล รับฟังผลการดำเนินงานของส่วนงาน (University Council Visit : 4) ครั้งที่ 35/2568 ของสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล และรับฟังผลการดำเนินงานที่ผ่านมา รวมทั้งการพัฒนาและความท้าทายในอนาคต โดยมี รองศาสตราจารย์ นายแพทย์อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร และบุคลากร เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็น ณ ห้องประชุมเจริญคุณธรรม ชั้น 3 สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล และผ่านระบบออนไลน์

1. ผลสำเร็จที่ภาคภูมิใจของส่วนงานในระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ตามแผนยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมหิดล
ยุทธศาสตร์ที่ 1 World Class Research & Innovation และ ยุทธศาสตร์ที่ 3 Policy Advocacy, Leaders in Professional / Academic Services and Excellence in Capacity Building for Sustainable Development Goals
1. สร้างงานวิจัยและนวัตกรรม ด้านการพัฒนาและคุ้มครองเด็ก-ครอบครัวเพื่อสร้างพลเมืองอนาคตในสังคมการพัฒนาที่ยั่งยืน โดย 4 ปีที่ผ่านมา มี 43 โครงการ ได้รับทุนวิจัย 57,902,670.11 บาท
2. ผลักดันนโยบายสาธารณะจากผลงานวิจัยและนวัตกรรม โดยมีบทบาทเชิงรุกในการออกแบบข้อเสนอเชิงนโยบายและร่วมเป็นคณะทำงานในระดับชาติ เช่น การผลักดันการประเมินและส่งเสริม EF เป็นฐานในการพัฒนาเด็ก นวัตกรรมการเรียนรู้ปฐมวัยเพื่อสร้างพลเมืองอนาคต (Social emotional learning + Inclusive classroom + Nature based education) ระบบการดูแลเด็กที่มีความต้องการพิเศษโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน (THAI-Model) การเลี้ยงดูเชิงบวก การคัดกรองเพื่อคุ้มครองกลุ่มเด็กเปราะบาง ACE การแก้ไข พรบ.มวย ปี 2542 การขับเคลื่อนกฎหมาย Car Seat มีงานวิจัยที่นำสู่นโยบายทั้งระดับองค์กรภาครัฐ ภูมิภาคและระดับจังหวัด 4 เรื่อง จัดทำเล่มข้อเสนอเชิงนโยบายจากวิจัย ปี 2564-2567 จำนวน 2 เล่ม Research Sharing 34 ครั้ง เวทีแถลงข่าว 30 ครั้ง
3. สร้างเครื่องมือและแนวปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้ในระดับชาติและท้องถิ่นได้ มีนวัตกรรมจากวิจัยที่จดทะเบียน 4 ชิ้น เช่น แบบประเมินสมอง EF เด็ก แบบประเมิน EF ในวัยรุ่น แบบประเมินสติในเด็กปฐมวัย
4. สร้างเครือข่ายความร่วมมือและหุ้นส่วนพัฒนา ในภาครัฐ 16 หน่วยงาน เอกชน 4 หน่วยงาน ต่างประเทศ 5 หน่วยงาน ชุมชนและครอบครัวผ่าน Platform EF ทั่วประเทศไทย และดำเนินโครงการวิจัยใน 7 จังหวัดหลัก ได้แก่ นครปฐม กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ จันทบุรี ระยอง อำนาจเจริญ และน่าน
5. เผยแพร่ผลงานวิจัยสู่สาธารณะ และนานาชาติ: ตีพิมพ์ระดับนานาชาติฐาน Scopus 26 เรื่อง ระดับชาติ 20 เรื่อง จัดประชุมวิชาการระดับชาติ 4 ครั้ง Proceeding เสนอ 30 เรื่อง ให้บริการวิชาการจากงานวิจัยสู่การสร้างรายได้ 1,383,300 บาท Platform EF มีผู้เข้าร่วมจากทั่วประเทศ 20,577 คน มียอดวิวผ่าน Facebook 250,000 ครั้ง

ยุทธศาสตร์ที่ 2 Innovative Education and Authentic Learning
1. ขยายฐานการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา สู่การศึกษาต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยพัฒนา รายวิชาสำหรับบุคคลทั่วไปร่วมเรียน (MAP-C สร้างรายได้ 1,245,800 ในปี 2567) พัฒนาหลักสูตรเสริมทักษะชีวิตให้แก่วัยรุ่น นักศึกษาระดับ ป.ตรี ผ่านรายวิชาการศึกษาทั่วไป (สร้างรายได้ 1,249,972 ในปี 2567) พัฒนาหลักสูตรวิชาโท สำหรับนักศึกษาป. ตรีคณะต่าง ๆ พัฒนาหลักสูตร Non-Degree เชื่อมโยงเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
2. พัฒนาระบบฐานสมาชิกการเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิตด้านการพัฒนาเด็กและครอบครัว (Onlineและระบบ Hybrid Learning) โดยปัจจุบันมีสมาชิกในระบบ 190,192 คน และมียอดการเข้าอบรมกว่า 157,364 ครั้ง มีผู้เรียนครอบคลุม 77 จังหวัด และจัดการเรียนรู้แล้ว 329 คอร์ส มี 14 แพลตฟอร์มที่จัดการเรียนรู้ประจำเดือน สร้างรายได้จากระบบ 11,387,850 ในปี 2567
3. เป็นศูนย์กลางการพัฒนาศักยภาพวิชาชีพด้านเด็กและครอบครัวในระดับชาติ เช่น จัดประชุมวิชาการ/ อบรมหลักสูตร และพัฒนาบุคลากรสหวิชาชีพในด้านการพัฒนาและคุ้มครองเด็ก ถ่ายทอดองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้ในองค์กรทั่วประเทศ

ยุทธศาสตร์ที่ 4 Management Innovation for Sustainability
1. พัฒนาระบบบริหารบุคลากรเพื่อเสริมสร้างองค์กรสุขภาวะและความยั่งยืนของทุนมนุษย์ เช่น สนับสนุนสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อต่อสุขภาวะทั้งกาย ใจ การเรียนรู้ตลอดชีวิต ครอบครัวเป็นสุข คลังสมอง: ระบบการร่วมงานอย่างมีคุณค่าหลังเกษียณ
2. ขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรมบริการและระบบการเงินที่ยั่งยืน จัดตั้งงานคลังและประกอบการ ช่วยสร้างรายได้จากการบริการวิชาการเพิ่มขึ้น วางระบบบริหารการเงินอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสนับสนุนพันธกิจของสถาบันในระยะยาว
3. ยกระดับระบบการบริหารองค์กรด้วยกรอบ EdPEx และ Lean เพื่อพัฒนาองค์กรอย่างมีระบบและยั่งยืน

2. เป้าหมายที่ท่านคาดหวังว่าจะดำเนินการเพิ่มเติมในอีก 2 ปีข้างหน้า (ปีงบประมาณ 2569-2570)
ยุทธศาสตร์ที่ 1 World Class Research & Innovation และ ยุทธศาสตร์ที่ 3 Policy Advocacy, Leaders in Professional / Academic Services and Excellence in Capacity Building for Sustainable Development Goals
1. เพิ่มงานวิจัยและนวัตกรรมเชิงบูรณาการ สหสาขา สังคมศาสตร์+วิทยาศาสตร์ ทั้งระดับชาติและนานาชาติ ที่สามารถใช้ในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ ให้เป้าหมายของการพัฒนามนุษย์ในระบบการศึกษา สาธารณสุข การปกครองส่วนกลางและท้องถิ่น มีความชัดเจนใน “ภาพพลเมืองอนาคต พลเมืองเพื่อสังคมการพัฒนาที่ยั่งยืนซึ่งสอดคล้องกับภาพสังคมอนาคต ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 และวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน 2030
2. เพิ่มผลผลิตการตีพิมพ์ในระดับชาติและนานาชาติ และเผยแพร่ในวงกว้างเพื่อใช้ประโยชน์แก่เด็กและครอบครัว
3. พัฒนากลไกการวิจัย โดยพัฒนาทุนผู้ช่วยวิจัย (Research fellows) และทุนทำวิจัยเพื่อวิทยานิพนธ์ ในโครงการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์สถาบัน พัฒนาพื้นที่วิจัยชุมชนเป็น Social LAB บนพื้นที่เดียวกัน เพื่อสร้างพื้นที่จำลองในการสร้างพลเมืองเพื่อสังคมการพัฒนาที่ยั่งยืนในหลายมิติ เพิ่มโอกาสการใช้ผลงานวิจัยในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ และพัฒนางานวิจัยบนงานบริการ (หรือที่เรียกว่า LAB นวัตกรรมของสถาบัน) ให้เต็มประสิทธิภาพ ได้แก่ งานวิจัยในศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย คลินิกบูรณาการ ห้องเรียนสมานใจ ห้องเรียน Future School ศูนย์ฝึกการเลี้ยงดูเด็กเสมือนจริง และศูนย์เรียนรู้ต่าง ๆ

ยุทธศาสตร์ที่ 2 Innovative Education and Authentic Learning
1. พัฒนาระบบการเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิตทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ เชิงปริมาณขยายฐานการเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิตให้มีขนาด 250,000 คน เชิงคุณภาพพัฒนารายวิชา (Courses) ที่เชื่อมต่อภาคปฏิบัติจริงกับวิถีชีวิตในครอบครัว หรือการปฏิบัติวิชาชีพจริงในพื้นที่ของผู้เรียน พัฒนาระบบการสร้างความผูกพันสมาชิกให้คงอยู่และมีบทบาทในระบบ การเชื่อมต่อการศึกษาผู้เรียนทั่วไปกับระบบ Non-Degree และ Degree แบบไร้รอยต่อ
2. พัฒนาหลักสูตรใหม่ทั้ง Degree และ Non-Degree ที่ตอบโจทย์สังคมและ SDGs เพิ่มช่องทางการเรียนรู้ผ่านระบบดิจิทัล และส่งเสริมการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติจริง (Authentic Learning) อย่างครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย (โครงการต่อเนื่อง)
3. ใช้กลไกการตลาดเพื่อสังคม (Social Marketing) หล่อหลอมวัฒนธรรมฐานสมาชิก เพื่อเป็นฐานพลังการขับเคลื่อน “ภาพพลเมืองอนาคต พลเมืองเพื่อสังคมการพัฒนาที่ยั่งยืน

ยุทธศาสตร์ที่ 4 Management Innovation for Sustainability
– พัฒนาระบบบริหารจัดการด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์ม เสริมสร้างองค์กรสุขภาวะ และยกระดับความยั่งยืนด้านการเงินและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ