วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วย กรรมการสภามหาวิทยาลัยมหิดล และทีมผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหิดล รับฟังผลการดำเนินงานของส่วนงาน (University Council Visit : 4) ครั้งที่ 29/2568 ของโครงการจัดตั้งสถาบันอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล และรับฟังผลการดำเนินงานที่ผ่านมา รวมทั้งการพัฒนาและความท้าทายในอนาคต โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฏฐนียา โตรักษา ผู้อำนวยการโครงการจัดตั้งสถาบันอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร และบุคลากร เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็น ณ ห้อง Workshop ริมน้ำ โครงการจัดตั้งสถาบันอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล และผ่านระบบออนไลน์
1. ผลสำเร็จที่ภาคภูมิใจของส่วนงานในระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ตามแผนยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมหิดล
ยุทธศาสตร์ที่ 1 World Class Research & Innovation
1. สร้างเครือข่ายความร่วมมือวิจัยและนวัตกรรมที่เชื่อมภาคอุตสาหกรรมกับนักวิจัยพหุสาขา โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือการใช้ประโยชน์ จาก plant/nature อย่างครบวงจร (โดยมี plant taxonomy เป็นจุดตั้งต้น) เพื่อนำไปสู่การมีสุขภาพสุขภาวะที่ดีของมนุษย์
2. เริ่มพัฒนาฐานข้อมูลพืช โดยมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงกว้างเพื่อ business decision-making นำไปสู่การส่งต่อการวิจัยเชิงลึก ที่ตอบโจทย์ตลาดและช่วยฟื้นฟูป่าอย่างยั่งยืน (อยู่ใน stage สร้าง quality data/pattern ก่อนใช้ AI)
3. พัฒนาพื้นที่อุทยานฯ 140 ไร่ ให้เป็น “open societal-innovation lab” สำหรับ plant/nature-based solutions ในรูปแบบ sandbox สำหรับนักวิจัยพหุสาขา (รวมถึง startups) ในการ design (for the product-market fit), test, assess, re-design, implement, diffuse และ commercialize โดยมุ่งเน้นให้เกิด “continuous-innovation ecosystem” ตอบสนอง future market trends
4. ทำ sandbox (ร่วมกับนักวิจัยพหุสาขาและภาคอุตสาหกรรม) ทดลองการปลูกพืชสมุนไพรที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง “ใต้ป่า” เพื่อให้ได้ มาซึ่ง protocol ที่เกษตรกรสามารถปลูกได้จริงและสามารถจัดการแปลงปลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการทดลองผลิตพืชสายพันธุ์แท้ ที่มีคุณภาพสูง นำร่องหัวพันธุ์พืชวงศ์ขิงปลอดเชื้อ
5. ทำ sandbox (ร่วมกับนักวิจัยพหุสาขาและภาคสังคม) ทดลองโปรแกรมกิจกรรมการเล่น “ร่วมกัน” (inclusive learning) ใน sensory garden (ที่ถูกออกแบบให้กระตุ้นประสาทสัมผัส 7 ด้าน บริเวณลานไม้เลื้อยและลานสมุนไพรเพื่อคนพิการและผู้สูงอายุ) ของเด็กที่มีและไม่มีความพิการ ให้เด็กที่มีความแตกต่างหลากหลาย เรียนรู้ความแตกต่างอย่างสนุกและมีความสุข ส่งเสริมสุขภาวะของเด็กแบบองค์รวม
ยุทธศาสตร์ที่ 2 Innovative Education and Authentic Learning
1. พัฒนาอุทยานฯ ให้เป็นพื้นที่เรียนรู้ (ทั้งในและนอกหลักสูตร) ของนักศึกษาทุกสาขาวิชา ที่ Inspire Change สู่การเป็น Global Citizens
ยุทธศาสตร์ที่ 3 Policy Advocacy, Leaders in Professional / Academic Services and Excellence in Capacity Building for Sustainable Development Goals
1. เพิ่มศักยภาพศูนย์อ้างอิงทางพฤกษศาสตร์ของพืชสมุนไพรและเครื่องยา ให้เต็มประสิทธิภาพในทุก Functions (living collection, tissue culture lab, molecular biology & phytochemistry lab, herbarium, plant nursery) รองรับการให้บริการที่ครอบคลุม
2. เพิ่มศักยภาพการให้บริการวิชาการประจำวันในรูปแบบ “กิจกรรมเรียนรู้” (ด้านสมุนไพร การแพทย์แผนไทย ศิลปะ พฤกษศาสตร์ สิ่งแวดล้อม) และ “กิจกรรม Wellness” (สร้างเสริมสุขภาพและสุขภาวะที่ดี) โดยเน้นการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รองรับการให้บริการคนทุกกลุ่มในสังคม (inclusion)
3. ให้บริการวิชาการในรูปแบบ service agreements (ผ่าน iNT) ในลักษณะโครงการต่อเนื่องกับ Corporate partners ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดให้บริการคลินิกแพทย์แผนไทย “บ้านหมอยา” เพื่อสร้างรายได้จากเศรษฐกิจสุขภาพด้านสมุนไพรและการแพทย์แผนไทย ในรูปแบบ Revenue sharing
ยุทธศาสตร์ที่ 4 Management Innovation for Sustainability
1. สร้างเครือข่าย strategic partners ระยะยาว (pool resources และสร้าง shared value) เพื่อให้โครงการฯ สามารถดำเนินงานภายใต้ ความจำกัดของทรัพยากร (ลด/ควบคุม operational cost และเพิ่ม revenue) ได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
2. พัฒนาอุทยานฯ ให้มีชื่อเสียงในฐานะ “ต้นแบบแหล่งท่องเที่ยวเชิงการเรียนรู้สมุนไพรและส่งเสริมสุขภาวะ” ตามแนวทาง SDGs และ BCG
3. เพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้จากการบริหารพื้นที่และสินทรัพย์ให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด (ใช้ data-enabled decision-making)
4. สร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบ “social enterprise startup” บุคลากรมี productivity สูง มี Mahidol-DNA และมี shared vision ร่วมกัน
2. เป้าหมายที่ท่านคาดหวังว่าจะดำเนินการเพิ่มเติมในอีก 2 ปีข้างหน้า (ปีงบประมาณ 2569-2570)
ยุทธศาสตร์ที่ 1 World Class Research & Innovation
1. สร้างเครือข่าย “affiliated researchers” ของโครงการฯ แบบ multi-disciplines (ภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยมหิดล) clustered ตาม (plant/nature-based) strategic research themes บนพื้นฐานโครงการ sandbox ต่าง ๆ ภายในอุทยานฯ (รวมถึงการวัด societal impact)
2. ใช้ AI และ Advanced technologies ในการต่อยอดพัฒนาฐานข้อมูลพืช
ยุทธศาสตร์ที่ 2 Innovative Education and Authentic Learning
1. เริ่มออกแบบพัฒนา Multidisciplinary Educational Programs บนพื้นฐาน (plant/nature-based) strategic research themes และ affiliated researchers (จากยุทธศาสตร์ที่ 1 ที่ทำให้โครงการฯ มีทั้ง authentic teaching content และ instructors)
ยุทธศาสตร์ที่ 3 Policy Advocacy, Leaders in Professional / Academic Services and Excellence in Capacity Building for Sustainable Development Goals
1. พัฒนาคุณภาพการให้บริการวิชาการให้ดียิ่งขึ้น เน้นสร้าง Customer Experience รักษาและขยายฐานลูกค้า Corporate Partners ในการใช้บริการวิชาการแบบต่อเนื่อง เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงระยะยาวให้โครงการ
ยุทธศาสตร์ที่ 4 Management Innovation for Sustainability
1. พัฒนาอุทยานฯ ให้มีชื่อเสียงใน Asia ในการเป็น “ต้นแบบแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้บนพื้นฐานงานวิจัยและนวัตกรรมที่สามารถสร้าง Real-world Impact ต่อสุขภาพและสุขภาวะของมนุษย์” (เป็น marketing ที่ช่วย diffuse/commercialize solutions จากโครงการ sandbox)