รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ผู้ที่ได้รับรางวัลมหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปีการศึกษา 2563 สาขาการบริการ

รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ กล่าวว่า การได้รับรางวัลมหาวิทยาลัยมหิดลครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นผลงานของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โดยเฉพาะ sector การดูแลสุขภาพ การบริการผู้ป่วย ซึ่งมีผลงานปรากฎเป็นที่พึงพอใจกับผู้รับบริการระดับดีมาก นับว่าเป็นผลงานของชาวรามาธิบดีที่มีใจในการให้อย่างมีคุณภาพ (Service Mind) มองลูกค้า หรือผู้รับบริการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้องค์กรเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และขอขอบคุณคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ให้เกียรติและให้โอกาสในการทำงานด้านบริหาร ทั้งนี้ ได้มุ่งเน้นการบริหารเชิงระบบ โดยมองผู้มารับบริการเป็นหลักว่าคาดหวังอะไร ด้วยการผลักดันการเพิ่มศักยภาพ สนับสนุนระบบบริการสู่ระดับสากลที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้แก่

ในภาพรวม สนับสนุนและผลักดันของระบบบริการที่โรงพยาบาลรามาธิบดี พญาไท จนได้รับการรับรองคุณภาพโรงพยาบาลขั้นก้าวหน้า (Advanced Hospital Accreditation) จากสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) (สรพ.) ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรฐานคุณภาพสถานพยาบาลระดับสากล

ส่วนหนึ่งเป็นจากการให้ความสำคัญแก่ระบบสนับสนุนพื้นฐานของระบบบริการสุขภาพ ให้มีมาตรฐาน ISO ไม่ว่าจะเป็นระบบสนับสนุนต่อการให้บริการสุขภาพโดยตรง เช่น ระบบห้องปฏิบัติการรวมทั้งระบบ Point of Care Test ระบบยา ระบบเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ ระบบการทำปลอดเชื้อ ระบบโภชนาการ ระบบป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อ หรือระบบการสนับสนุนอื่นๆที่ส่งผลทางอ้อมแก่ผู้ป่วย เช่น ระบบจัดการผ้า ระบบเวชระเบียน ระบบตรวจสอบสิทฺธิ ระบบเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เป็นต้น เพื่อประสิทธิภาพและประสิทธิผล นำสู่ความอุ่นใจและมั่นใจของผู้รับบริการ

ทีมบริหารสนับสนุนและเสริมพลังให้ทีมรักษาพยาบาลแต่ละทีมที่มีผลลัพธ์ระดับนานาชาติ โดยเจาะลึกไปยังระดับรายโรค ให้ยกระดับกระบวนการบริการดูแลผู้ป่วย อาทิ การปลูกถ่ายอวัยวะ การปลูกถ่ายไขกระดูก การดูแลผู้ป่วยเบาหวาน การดูแลผู้ป่วยประคับประคอง หรือการดูแลโรคมะเร็งปอด เป็นต้น ให้เป็นมาตรฐานระดับย่อยอย่างมีระบบ สนับสนุนการทำงานเป็นทีมของสหสาขาวิชาชีพ เป็นสายพานการผลิตที่สอดคล้องกัน

มหาวิทยาลัยมหิดลจึงเล็งเห็นว่าคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มีการยกระดับการบริการอย่างสม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง การปรับพัฒนาตามมาตรฐานที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ผลลัพธ์การรักษา การรับฟังเสียงสะท้อนความต้องการของผู้รับบริการหรือผู้มีส่วนร่วม เช่น กองทุนสุขภาพ เป็นต้น การสร้างนวัตกรรมบริการ สนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมขององค์กร (Innovation in Organization) เหล่านี้ส่งผลให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้รับบริการ จนได้รับเลือกจากประชาชนเป็นโรงพยาบาลรัฐระดับต้นๆที่ประชาชนให้ความเชื่อถืออยู่เป็นเนืองๆ

ความป็นหนึ่งของชาวรามาธิบดี ที่มีค่านิยมองค์กรเดียวกัน ตั้งแต่ มุ่งเรียนรู้ คู่คุณธรรม ใฝ่คุณภาพ ร่วมสานภารกิจ คิดนอกกรอบ รับผิดชอบสังคม นอกจากจะช่วยในการขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างรวดเร็ว ยังนำมาซึ่งความภาคภูมิใจ ในการจัดการกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งเป็นโรคติดต่อ และเป็นโรคอุบัติใหม่ ในปี 2563 – 2564 ที่ผ่านมา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

การดูแลผู้ป่วย COVID-19 คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ใช้ศักยภาพของบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ทีมที่ร่วมมือร่วมใจอันแข็งแกร่งของทีมสหวิชาชีพ และศักยภาพของโรงพยาบาลรามาธิบดี พญาไท และโรงพยาบาลรามาธิบดีจักกรีนฤบดินทร์ ในการรับมือกับจำนวนผู้ป่วย COVID-19 จำนวนมาก ในปี 2564 ผู้ป่วยโรคโควิด-19 มีจำนวนมากขึ้น ตลอดจนขยายศักยภาพการบริการ ไม่ว่าจะเป็น Home isolation Hospitel 2 แห่งและ Community Isolation เพื่อดูแล 22 ชุมชนรอบๆ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

นอกจากนี้ รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ได้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการอำนวยการโรงพยาบาลในกลุ่มสถาบันแพทย์แห่งประเทศไทย (UHosNet) ซึ่งประกอบด้วย 22 โรงเรียนแพทย์ สำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 7 โรงเรียนแพทย์ ได้ร่วมในการดำเนินการรับสถานการณ์ COVID-19 กับภาคีเครือข่ายด้านบริการสุขภาพ ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค กรุงเทพมหานคร สมาคมโรงพยาบาลเอกชน ก่อเกิดเป็นความร่วมมือ ตั้งแต่ ด้านนโยบาย การวางระบบค้นหาควบคุมป้องกันโรค การดูแลรักษา การส่งต่อ การจัดสรรทรัพยากร  ตัวอย่าง เช่น การระดมทีมงานเพื่อดูแลผู้ที่กักตัวที่ State Quarantine Hotel ค้นหาและควบคุมโรคในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร และ ค้นหาควบคุมโรคและร่วมฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ที่ชุมชนคลองเตยและ 25 จุดบริการของพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมทั้งระดมทีมงานจาก UHosNet ภูมิภาคมาช่วยเสริมกำลังที่โรงพยาบาลสนามบุษราคัมและศูนย์แรกรับนิมิบุตร เช่นเดียวกันเมื่อการระบาดของ COVID-19 ลุกลามไปในภูมิภาค UHosNet ส่วนกลางร่วมกับกรมการแพทย์จัดสรรอุปกรณ์ทางการแพทย์และจัดกำลังคนไปเสริมกำลังเขตสุขภาพที่ 11 เขตสุขภาพที่ 12 และล่าสุดไปเสริมกำลังที่พื้นที่เชียงใหม่ (เขตสุขภาพที่ 1) เพื่อร่วมรับมือผู้ติดเชื้อที่มีจำนวนมากขึ้น จนเกินกำลังของบุคลากรในพื้นที่ เป็นต้น

รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ได้กล่าวถึงเป้าหมายองค์กรว่า คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล สามารถทำอะไรเพื่อสังคมได้ ซึ่งอยู่ใน Mahidol Core Values ค่านิยมองค์กรของมหาวิทยาลัยมหิดล และหลักธรรมาธิบาลที่มีองค์ประกอบในหลาย ๆ ด้าน เน้นเรื่องความมีส่วนร่วมที่จะวางเป้าหมาย และ feedback ของงานต่าง ๆ โดยกลับมาที่ตัวเรา เพื่อการขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องมองมุมบวก มุ่งมั่น ทำให้เป็นจริงทุกอย่าง หรือไม่ก็ดีขึ้น และสิ่งสำคัญอีกประการ คือให้เกียรติกัน “การเอาใจเขามาใส่ใจเรา” สิ่งเหล่านี้ได้ปฏิบัติมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนแพทย์