วันที่ 20 มิถุนายน 2568 ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วย กรรมการสภามหาวิทยาลัยมหิดล และทีมผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหิดล รับฟังผลการดำเนินงานของส่วนงาน (University Council Visit : 4) ครั้งที่ 6/2568 ของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และรับฟังผลการดำเนินงานที่ผ่านมา รวมทั้งการพัฒนาและความท้าทายในอนาคต โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ประสิทธิ์ สุวรรณเลิศ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณาจารย์ และบุคลากร เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็น ณ ห้องประชุม K101 อาคารเฉลิมพระเกียรติ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
1. ผลสำเร็จที่ภาคภูมิใจของส่วนงานในระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ตามแผนยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมหิดล
ยุทธศาสตร์ที่ 1 World Class Research & Innovation
Deep Science and Technology
1. สร้างผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีคุณภาพระดับสากลและมีผลกระทบสุง โดยเฉพาะใน 4 กลุ่มสาขาหลัก ผ่านกลไกออกแบบทุนวิจัยภายในให้มีความหลากหลายและยืดหยุ่นตอบโจทย์นักวิจัยทุกระดับ (early, mid-career และ senior researchers) และส่งเสริมการบูรณาการสหสาขา ทำให้ผลงานวิจัยตีพิมพ์โดยรวมเพิ่มขึ้น (ปี 2023: 441 เรื่อง, ปี 2024: 461 เรื่อง) สัดส่วนการตีพิมพ์ในวารสารระดับ Q1 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (ปี 2024: 71% เป้าหมายปี 2025: 851%) (โครงการต่อเนื่อง)
2. ขยายเครือข่ายความร่วมมือเชิงรุกกับภาคเอกชน, รัฐวิสาหกิจ, หน่วยงานภาครัฐ และสถาบันวิจัยนานาชาติ ทำให้มีความร่วมมือในระดับนานาชาติกับ Bill & Melinda Gates Foundation, Mekong-Lancang Cooperation, UK Partnering for Accelerated Climate Transitions, Swiss National Science Foundation (SNSF), Human Cell Atlas (MIT), LHAASO (CNSA) เป็นต้น และองค์กรชั้นนำในประเทศ เช่น SCGC, Thai Union, Betagro, การยางแห่งประเทศไทย, UAE, GNPT, MEDEZE (โครงการต่อเนื่อง)
3. เสริมสร้างศักยภาพนักวิจัย ผ่านโครงการ Visiting Professor, การสร้างความร่วมมือเฉพาะทาง (เช่น Trop Med – Science Cooperation) การดึงดูดและรักษา Global Talents, การสนับสนุนผ่านโครงการบ่มเพาะที่เป็นที่รู้จักในระดับสากล (เช่น SPACE-F Program) การให้คำปรึกษาด้านทรัพย์สินทางปัญญา (IP Clinic) และการจัด Research & innovation seminars and workshops อย่างต่อเนื่อง ทำให้นักวิจัยของคณะวิทยาศาสตร์ได้รับการยอมรับและมีส่วนร่วมในโครงการระดับนานาชาติมากขึ้น เช่น Prof. Genji Kurisu, Prof. Takayuki Kato, Assoc. Prof. Dr. Sachiko Toma-Fukai ในโครงการ Protein Structure Determination และมีนวัตกรรมที่เกิดจากนักวิจัย เช่น ผลงานของ รองศาสตราจารย์ ดร.พงศกร กาญจนบุษย์ (Passi-Cool) รองศาสตราจารย์ ดร.ทวีชัย อมรศักดิ์ชัย (Avenger Technology) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชญาณิศา ชิติโชติปัญญา (Perfect Protection) เป็นต้น (โครงการต่อเนื่อง)
ยุทธศาสตร์ที่ 2 Innovative Education and Authentic Learning
Brain power for Deep Science & Tech
1. การสร้างโอกาสและขยายตลาดกลุ่มผู้เรียน จำนวน 48 หลักสูตร แบ่งเป็นระดับปริญญาตรี หลักสูตรไทย 6 หลักสูตร และหลักสูตรนานาชาติ 7 หลักสูตร หลักสูตรนานาชาติระดับบัณฑิตศึกษาอีกจำนวนกว่า 35 หลักสูตร โดยดำเนินการเชิงรุกผ่านเครือข่ายโรงเรียนมัธยมศึกษากว่า 143 แห่ง ความร่วมภาคีมหาวิทยาลัยต่างประเทศจาก 12 ประเทศ (โครงการต่อเนื่อง)
2. การส่งเสริมและพัฒนาหลักสูตรให้เข้มแข็งและทันสมัยโดยใช้กระบวนการ Design Thinking และ Co-Creation ร่วมกับภาคีเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อให้ได้หลักสูตรที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้เรียน และสอดคล้องกับทิศทางของตลาดแรงงานในปัจจุบันและอนาคต คณะวิทยาศาสตร์มีหลักสูตรที่ดำเนินการร่วมกับสถาบันพันธมิตรต่างประเทศ จำนวน 10 หลักสูตร
3. ระบบนิเวศของการเรียนรู้ (Education Ecosystem) การมีพื้นที่สร้างสรรค์และทำงานร่วมกัน (Co-working Space) รองรับความต้องการของนักศึกษาและบุคลากร จำนวน 18 ห้อง ทั้งพญาไทและศาลายา รองรับผู้ต้องการใช้พื้นที่ได้ถึง 320 คน การจัดกิจกรรมนอกหลักสูตร (Extracurricular Activities การเชื่อมโยงสู่สากล (Globalization) ส่งผลให้จำนวน Inbound และ Outbound เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (Inbound: 42 (2566), 54 (2567) และ Outbound: 58 (2566), 60 (2567)) การพัฒนานักศึกษาให้เป็น Global Citizen อาทิ (1) ผู้แทนประเทศไทย เข้าร่วมการประชุม Global Young Scientists Summit 2025 จัดโดย National Research Foundation (NRF) ประเทศสิงคโปร์ จำนวน 2 ราย (2) ผู้รับทุน MEXT Scholarship for 2025 เพื่อศึกษาต่อระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ณ ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 2 ราย เป็นต้น หน่วยส่งเสริมอาชีพวิทยาศาสตร์ (Mahidol Science Career Support Service) จัดตั้งในปี 2567 มีบทบาทในการพัฒนานักศึกษาให้มีความพร้อมสู่โลกการทำงาน โดยจัดกิจกรรม เช่น Mahidol Science Career Talk เวทีเสวนาเพื่อเปิดโลกทัศน์อาชีพ โดยได้รับการตอบรับจากสถานประกอบการเข้าร่วม จำนวน 31 บริษัท และมีผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 560 คน ทั้งนี้ มีนักศึกษาที่กำลังจะจบการศึกษาได้งานทำจากกิจกรรมนี้ด้วยเช่นกัน (โครงการต่อเนื่อง)
4. ระบบการติดตามและดูแลนักศึกษาแพทย์สถาบันพระบรมราชชนก ได้พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้มีการจัดทำ Line Official Account เป็นครั้งแรกเพื่อใช้เป็นช่องทางในการดูแลนักศึกษา รวมถึงเป็นแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อนักศึกษา ทำให้การสื่อสารระหว่างนักศึกษากับคณะและศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษามีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกับการเยี่ยมชมและประชุมหารือความร่วมมือระหว่างคณะวิทยาศาสตร์กับศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาและคณะแพทยศาสตร์ในโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อรับฟังข้อมูลป้อนกลับและปรับปรุงหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตระดับชั้นปรีคลินิกให้ดียิ่งขึ้น
5. การวิจัย Deep Technology ขับเคลื่อนการพัฒนา Deep Talent (Deep Technology Research-Driven Deep Talent Development) นักศึกษาระดับปริญญาตรีทุกคนมีโอกาสนำเสนอผลงานวิจัยในรูปแบบ Oral Presentation และ Poster Presentation ผ่านกิจกรรม Science Project Exhibition โดย มีจำนวนผลงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (2566: 153 ผลงาน, 2567: 194 ผลงาน และ 2568: 227 ผลงาน) ผลงานวิจัยจากโครงงานวิจัยของนักศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน 7 ราย ได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัล Young Rising Stars of Science Award จากสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (โครงการต่อเนื่อง)
ยุทธศาสตร์ที่ 3 Policy Advocacy, Leaders in Professional / Academic Services and Excellence in Capacity Building for Sustainable Development Goals
Science-Driven Social Policy and Public Awareness
1. การประยุกต์ใช้องค์ความรู้วิจัย มีการขยายโอกาสและสร้าง Ecosystem รองรับการเป็นที่พึ่งทางวิชาการ และสร้างทรัพย์สินทางปัญญา ตลอดจนการถ่ายทอดเทคโนโลยีกับหน่วยงานคู่ความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ เช่น ในด้าน Space Science and Energy & Environment ร่วมมือกับ บริษัท ยูไนเต็ด แอนนาลิสต์ฯ Winrock International และ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ด้าน Functional and Future Food กับ บริษัท Thai Union และ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ด้าน Health and Well Being กับ บริษัท EVIDENT-SciEd, บริษัท เบทาโกร และ บริษัท SC21 และด้าน AI and Data Science กับคู่ความร่วมมือทั้งในไทยและต่างประเทศ (โครงการต่อเนื่อง)
2. การวิจัยเพื่อผลักดันเชิงนโยบาย การผลักดันผลงานวิชาการที่สร้าง Impact มุ่งสู่ระดับนโยบาย และตอบโจทย์ SDG เช่น การพัฒนาสารออกฤทธิ์ในกระชายขาวเพื่อต้านเชื้อ COVID-19 รองศาสตราจารย์ พญ.อรุณี ธิติธัญญานนท์ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศุภฤกษ์ บวรภิญโญ ที่ได้รับมาตรฐาน และพร้อมที่จะพัฒนาเป็นผลิตเป็นอาหารเสริมหรือเวชภัณฑ์รักษาโรคในอนาคต โครงการการวิเคราะห์องค์ประกอบโปรตีนในข้าวที่ปลูกในสภาวะตึงเครียดสูง อาจารย์ ดร.ทัฏพงศ์ ตุลยานนท์ ที่ได้รับการยอมรับจากกลุ่มวิจัยประเทศจีนให้เข้าร่วมโครงการอวกาศแห่งชาติจีน โครงการประยุกต์ใช้นวัตกรรมเส้นใยสับปะรด (เสื้อเกราะกันกระสุน) และการจัดการของเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุด รองศาสตราจารย์ ดร.ทวีชัย อมรศักดิ์ชัย ที่ได้รับความเชื่อถือจากหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติว่ามีมาตรฐานความปลอดภัยสูงมาก
ยุทธศาสตร์ที่ 4 Management Innovation for Sustainability
Management Platform for Deep Science and Sustainability
1. พัฒนาระบบการดำเนินงานด้านกายภาพและสิ่งแวดล้อมให้มีความปลอดภัย มุ่งสร้างสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่มุ่งสู่ Lively Campus ทำให้คณะวิทยาศาสตร์ได้รับรางวัลสถานศึกษาปลอดภัย จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบัน รวมถึงการสร้างรายได้จากการใช้งานพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ
2. สร้างกระบวนการ Digital Transformation อย่างเป็นระบบ พัฒนาและปรับปรุงระบบที่สำคัญ เช่น ระบบจัดสอบของนักศึกษาระดับปริญญาตรี ระบบคลังข้อสอบนักศึกษาแพทย์และบัณฑิตศึกษา Line Bot สำหรับนักศึกษาแพทย์และบัณฑิตศึกษา เป็นต้น (โครงการต่อเนื่อง)
2. เป้าหมายที่ท่านคาดหวังว่าจะดำเนินการเพิ่มเติมในอีก 2 ปีข้างหน้า (ปีงบประมาณ 2569-2570)
ยุทธศาสตร์ที่ 1 World Class Research & Innovation
1. Knowledge Hubs and Culture for Deep Science and Technology: สร้างวัฒนธรรมและศูนย์รวมองค์ความรู้ที่เข้มแข็งใน 4 กลุ่มสาขาหลัก
2. การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทาง (1) ATMP Center ผลักดันการวิจัยและพัฒนาด้านการแพทย์ขั้นสูงและการประยุกต์ใช้ AI ในวิทยาศาสตร์ชีวภาพ (2) Deep Science Center for Future Food พัฒนานวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต (3) Space Science Center มุ่งเน้นวิทยาศาสตร์อวกาศ (4) MUSC AI Center เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการวิจัยที่ต้องใช้การประมวลผลขั้นสูง
3. เป้าหมาย Output ผลงานวิจัยตีพิมพ์ใน Q1 ให้อยู่ในระดับ ไม่น้อยกว่า 85-90% และผลงานวิจัยตีพิมพ์ใน Top 10% ไม่น้อยกว่า 35% (โครงการต่อเนื่อง)
ยุทธศาสตร์ที่ 2 Innovative Education and Authentic Learning
1. การสร้างโอกาสและขยายตลาดกลุ่มผู้เรียน อาทิ ทุน Alpha ก้าวแรกสู่ความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์ ตั้งเป้า 100 ล้าน สร้าง 100 โอกาส การศึกษาด้านวิทยาศาสตร์
2. การส่งเสริมและพัฒนาหลักสูตรให้เข้มแข็งและทันสมัย ได้แก่ (1) เปิดหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาฟิสิกส์การแพทย์และเทคโนโลยี (หลักสูตรนานาชาติ) (2) พัฒนาหลักสูตร ป.โท ด้าน Anti-aging ผ่านกระบวนการ กระบวนการ Design Thinking และ Co-Creation ร่วมกับภาคีเครือข่ายความร่วมมือ (3) ดำเนินการปรับปรุงหลักสูตรปัจจุบันให้สอดคล้องกับแนวทาง “สหกิจศึกษา” (Co-operative Education) เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาในการเข้าสู่ตลาดแรงงาน โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม (โครงการต่อเนื่อง)
3. ระบบนิเวศของการเรียนรู้ (Education Ecosystem) ได้แก่ โครงการ Mahidol Innovative Learning Space @ Yothi Science District – MILSYS รองรับ นักศึกษา บุคลากร คณะวิทยาศาสตร์ หรือส่วนงานใกล้เคียง รวมถึงบุคคลภายนอก บริษัทเอกชน หรือหน่วยงานที่ร่วมทุน ที่ทำ MOU ร่วมกัน, การจัดตั้ง International Students Hub @ Phaya Thai Campus (โครงการต่อเนื่อง)
ยุทธศาสตร์ที่ 3 Policy Advocacy, Leaders in Professional / Academic Services and Excellence in Capacity Building for Sustainable Development Goals
1. ด้านการประยุกต์ใช้องค์ความรู้วิจัยและการศึกษา พัฒนาและปรับปรุง “Smart Platform” (เช่น SC-PROJECT HUB) ให้เป็นแพลตฟอร์มบริการวิชาการที่ครบวงจร เข้าถึงง่ายสำหรับผู้ใช้บริการภายนอก พัฒนากระบวนการเชิงระบบต่างๆ (โครงการต่อเนื่อง)
2. ด้านวิจัยเชิงนโยบาย เป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อนนโยบายสังคมที่มีฐานจากวิทยาศาสตร์ (Social Policy Driven by Science) และเป็นผู้นำด้านการสื่อสารวิทยาศาสตร์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของสังคมต่อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Science Communication for Social Trust) ทั้ง 4 ด้าน (โครงการต่อเนื่อง)
ยุทธศาสตร์ที่ 4 Management Innovation for Sustainability
1. พัฒนากระบวนการส่งเสริมบุคลากรสายวิชาการและสายสนับสนุนสู่การเป็น Global Talent
2. ขับเคลื่อนโครงการ “Smart HRD” โดยใช้ AI & Data Analytics (โครงการต่อเนื่อง)
3. สร้าง Platform พัฒนา Leadership
4. พัฒนาระบบการดำเนินงานพื้นฐานในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อรับการรับรองมาตรฐาน ISO 14001 มาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม (Environment management System) (โครงการต่อเนื่อง)
5. พัฒนาระบบวิเคราะห์ข้อมูลแบบบูรณาการ โดยเชื่อมโยงข้อมูลจากหลายระบบสารสนเทศภายในองค์กรมาแปลงเป็นสารสนเทศเชิงลึก (Insight) (โครงการต่อเนื่อง)
6. จัดทำ Financial Management System โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มรายได้จากการบริหารจัดการและการลงทุน (1) เพิ่มรายได้จากการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ภายในปี พ.ศ. 2570 (2) เพิ่มรายได้จากการบริการวิชาการ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมรรถนะหลักในการถ่ายทอดองค์ความรู้และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ภายในปี พ.ศ. 2570
7. ยกระดับมาตรฐาน ITA สู่ความเป็นเลิศ ITA Excellence เป้าหมายจาก 86.93 คะแนน เป็น 90.00 คะแนน หรือสูงกว่า (โครงการต่อเนื่อง)