วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 รองศาสตราจารย์ ดร.นภเรณู สัจจรักษ์ ธีระฐิติ รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมโครงการบูรณาการศิลป์อาเซียน ครั้งที่ 5 จัดโดย สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเครือข่าย AUN-AYCF Thailand โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.นันทิยา ดวงภุมเมศ ผู้อํานวยการสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการ และรองศาสตราจารย์ ดร.ภัทระ คมขํา ประธานคณะกรรมการบริหาร AUN-AYCF Thailand กล่าวความเป็นมาของโครงการฯ และผู้แทนจากมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วม จัดโดย สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเครือข่าย AUN-AYCF Thailand (ASEAN Youth Cultural Forum – Thailand) ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดโครงการบูรณาการศิลป์อาเซียน ครั้งที่ 5 ณ ห้องประชุมอเนกประสงค์ชั้น 2 สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา
โครงการบูรณาการศิลป์อาเซียนจัดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 โดยในปี พ.ศ. 2568 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 มหาวิทยาลัยมหิดลได้เป็นเจ้าภาพหลัก ร่วมกับ กองวิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งกำหนดจัดระหว่างวันที่ 3 – 8 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม ส่งเสริมความเข้าใจอันดี และสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างกัน ภายในงานมีกิจกรรม MU Campus Tour เยี่ยมชมมหาวิทยาลัยมหิดลและ Cultural Trail เส้นทางศึกษาวัฒนธรรมชาติพันธุ์ โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พธู คูศรีพิทักษ์ สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้ความหลากหลายทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ รวมถึงเวิร์กช็อป “อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม: กุญแจสู่การเชื่อมโยงโลก” โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุนิดา ศิวปฐมชัย รองผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและบริการวิชาการ สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล ให้เยาวชนได้สำรวจและตระหนักถึงอัตลักษณ์ตนเองและความสำคัญของการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม การเสวนา และการแสดงจากเยาวชนอาเซียน สะท้อนเป้าหมายของโครงการในการเชื่อมโยงเยาวชนผ่านศิลปวัฒนธรรม และขยายการบูรณาการศิลป์อาเซียนสู่เวทีระดับชาติและนานาชาติในอนาคต
ขอบคุณข้อมูลภาพข่าว : สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล
เรียบเรียงโดย : งานสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยมหิดล