มหาวิทยาลัยมหิดล ลงนามความร่วมมือเพื่อวิจัยและพัฒนา “โครงการการผลักดันยามาลาเรีย P218 สู่การเป็นยาใหม่ตัวแรกของประเทศที่กำลังพัฒนา”

วันที่ 13 ธันวาคม 2566 ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านมาเลเรียในประเทศไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยมหิดล กับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ด้านการวิจัยและพัฒนา “โครงการการผลักดันยามาลาเรีย P218 สู่การเป็นยาใหม่ตัวแรกของประเทศที่กำลังพัฒนา” โดยมี ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล และดร.สมบุญ สหสิทธิวัฒน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมลงนาม โอกาสนี้ รองศาสตราจารย์ ดร. เภสัชกรหญิงจุฑามณี สุทธิสีสังข์ ที่ปรึกษาอธิการบดีด้านแผนงานและยุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และรักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล รองศาสตราจารย์ เภสัชกรสุรกิจ นาฑีสุวรรณ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล รองศาสตราจารย์ นายแพทย์วีระพงษ์ ภูมิรัตนประพิณ คณบดีคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล รองศาสตราจารย์ ดร.ประสิทธิ์ สุวรรณเลิศ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล รองศาสตราจารย์ ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้แทนจากมหาวิทยาลัยมหิดล ผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมเป็นเกียรติในงานแถลงข่าวพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารพระจอมเกล้า กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

บันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ เป็นความร่วมมือในการผลักดันยา P218 ซึ่งเป็นยาใหม่ที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อมาลาเรียสายพันธุ์ที่ดื้อต่อยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ มหาวิทยาลัยมหิดลได้นำศักยภาพของแพลตฟอร์มการพัฒนายา Mahidol University Drug Discovery & Development (MU-DDD) มาใช้ในการผลักดันยา P218 สู่การเป็นผลิตภัณฑ์ยาของประเทศไทย ซึ่งแพลตฟอร์ม MU-DDD ได้รับการสนับสนุนทุนจากโครงการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย (Reinventing University) ตามนโยบายของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จุดเด่นของแพลตฟอร์มคือ ความสมบูรณ์ของศักยภาพการพัฒนายาที่ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ และไปเชื่อมต่อกับความเข้มแข็งด้านการทำวิจัยในสัตว์ทดลอง ความสามารถในการพัฒนาสูตรตำรับยาให้อยู่ในรูปแบบที่เหมาะกับการใช้ในกลุ่มประชากรที่หลากหลาย ตลอดจนความเข้มแข็งด้านการทำวิจัยในมนุษย์ของมหาวิทยาลัยมหิดล ในปัจจุบัน มหาวิทยาลัยมหิดลร่วมประชุมและวิจัยร่วมกับทีมวิจัยจากศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ในการพัฒนายา P218 มาเป็นระยะ และได้ทิศทางที่ชัดเจนในการผลักดันยา P218 ให้เข้าสู่ขั้นตอนต่างๆ ที่จำเป็นตามเกณฑ์การขึ้นทะเบียนยาของประเทศไทยและในระดับนานาชาติ รวมถึง ได้เริ่มประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข (อย.) ในเบื้องต้นเพื่อให้ อย. รับทราบเกี่ยวกับความพยายามดังกล่าว โดยคาดการณ์ว่าอาจสามารถดำเนินการเตรียมความพร้อมของข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงวิจัยเพิ่มเติมอีกไม่เกิน 2 ปี จะสามารถเข้าสู่กระบวนการขอขึ้นทะเบียนยา P218 ได้เป็นผลสำเร็จ