Page 8 - MU_5May66
P. 8

8                                            มหิดลสาร ๒๕๖๖                                        May 2023



                 ม.มหิิดลค้นพบโรคเสุ้นป็ระสุาทีต่าอักเสุบชุนิดใหิม                                      ่


                                          ู
                                            ิ
                           สุาเหิต่ภมคุ้มกันผิิดป็กต่ิในผิู้ป็วิย HIV
                                       ุ
                                                                                ่
                                                                                         ์
                                                                                   สูัมภัาษณ และเข้ียนข้่าวโดย ฐ์ิตรัตน เดชพื่รหิม
                                                                                                          ์
                                                                                                       ิ
                                                                                                           ้
                                                                                                   ภัาพื่จากผิู้ใหิสูัมภัาษณ ์
                        ี
                         ิ
                                                        ็
                                              ั
                                           ี
                                         ิ
                                           �
            ในบรรดาโรคท�เกดจากความผิิดปกตเกยวกบการมองเหิน
                                                       �
                                                  ่
         �
         ึ
                                   ึ
        ซงนอกจากอาการ  “เบาหวานข�นตา”    หิรือ  “ตอหน”  ทีพื่บ
                                                ้
        ไดบ่อยแลว ยังม  “โรื่คเสิ่้นปรื่ะสิ่าที่ตาอกเสิ่บ” ท�อาจคุกคาม
                ้
                                                ี
          ้
                      ี
                                         ั
                                         ้
                            ่
                                         ุ
                                       ิ
                                           ั
             ั
         ้
         ู
                              ู
        ผิคนท�วๆ  ไป  หิรือแม้แตผิ้ป่วยโรคภัูมคมกนบกพื่ร่อง  (HIV)
          ้
                         ้
        ไดหิากไม่เฝึ้าระวังใหิมากพื่อ
                                           ่
             ผู้่้ชุ่วยศิาสิ่ตรื่าจารื่ย์  แพที่ย์หญงปนษฐา  จนดาหรื่า
                                                  ่
                                       ่
        อาจารย์แพื่ทย์ประจาหินวยประสูาทวิทยา ภัาควิชาอายรศาสูตร์
                        ำ
                           ่
                                                   ุ
                                                    ิ
        คณะแพื่ทยศาสูตร์โรงพื่ยาบาลรามาธิบด มหิาวิทยาลยมหิดล และ
                                                ั
                                       ี
        ทีมวจยซ�งเป็นความร่วมมือภัายในคณะฯ ระหิว่างหินวยประสูาท
                                                 ่
            ิ
             ั
               ึ
                                           ั
                        ุ
        วิทยา ภัาควิชาอายรศาสูตร์ และภัาควิชาจกษวิทยา ในฐ์านะ
                                              ุ
                                     ้
                        ่
                                  ู
                                   ิ
                                     ุ
                                       ั
                                                 ี
                                                ่
        “ปัญญาของแผู้่นดน”  คนพื่บภัมคมกนชนดใหิมท�เป็นสูาเหิต ุ
                             ้
                                           ิ
                                   ั
        ข้องการเกดโรคเสู้นประสูาทตาอกเสูบ  และไดรื่ับการื่ตพมพ์
                                              ้
                 ิ
                                                     ่
                                                       ่
                                                                         ผู้้�ช่่วยั่ศึาสตรื่าจารื่ยั่์ แพื่ที่ยั่์หญิงปนิษฐา จินดาหรื่า
                ้
                                                     ั
                               ้
                          ่
        ผู้ลการื่คนพบดงกลาวแลวในวารื่สิ่ารื่ว่ชุาการื่รื่ะดบโลก
                      ั
                                                                                  ำ
                                                                                                     ุ
                                                                       อาจารย์แพื่ทย์ประจาหินวยประสูาทวิทยา ภัาควิชาอายรศาสูตร์
                                                                                     ่
                                                                                                     ั
                                                                                              ี
                                                                                                        ิ
                                  ึ
        “Dove  Press  Journal”  ซี�งอยใน  Top  1%  ของโลก               คณะแพื่ทยศาสูตร์โรงพื่ยาบาลรามาธิบด มหิาวิทยาลยมหิดล
                                      ่
                                      ่
                                                                          ่
                                                                          �
                                                                                                              ำ
                                                                   นอกจากนที่างที่่มว่จยไดที่าการื่ศิึกษาในผู้่้ป่วย HIV ที่าให ้
                                                                                   ั
                                                                                       ำ
                                                                                      ้
                                                                                                              ั
                                                                                                 ่
                                                               โลกแหงวงการื่แพที่ย์ไดปรื่ะจกษถง  “ปฏิกรื่่ยาสิ่ะที่้อนกลบ”
                                                                                        ั
                                                                                                  ่
                                                                                            ึ
                                                                                   ้
                                                                     ่
                                                                                          ์
                                                                           ้
                                                                                            ้
                                                                                                    ั
                                                                              ั
                                                               ของการื่ม่ภ่ม่คุมกนสิ่่งขึ�น แตอาจใหผู้ลที่่�ตรื่งกนข้าม
                                                                                       ่
                                                                                                             ั
                                                                                                  ั
                                                                                         ู
                                                                     ื
                                                                       เพื่�อเพื่�มความเฝึ้าระวังในผิ้ป่วยโรคดงกลาว  โดยท�วไป
                                                                                                     ่
                                                                        ิ
                                                               ผิ้ป่วย  HIV  จะตองดูแลตวเองดวยการตรวจสูารภัูมคมกน
                                                                                     ั
                                                                             ้
                                                                                                               ั
                                                                 ู
                                                                                                             ้
                                                                                                           ิ
                                                                                                             ุ
                                                                                          ้
                                                               ในร่างกาย  หิรือ  “CD4”  (Cluster  of  Differentiation  4)
                                                                                                   ์
                                                                                                    ่
                 ้
                                                                         ี
             โดยไดที่าการื่ศิึกษาในผู้่้ป่วยเสิ่้นปรื่ะสิ่าที่ตาอกเสิ่บของ  ใหิมคาคงท�ระหิว่าง  ๕๐๐  –  ๖๐๐  เซลลตอ  ๑  ลูกบาศก ์
                                                                   ี
                                                                  ้
                                                                    ่
                                                  ั
                  ำ
                                                                   ิ
        โรื่งพยาบาลรื่ามาธ์่บด  อายเฉลย  ๔๕  ปี  จานวน  ๑๗๑  รื่าย  มิลลลตร  จากการไดรับยาตานไวรัสู  HIV  อย่างสูมาเสูมอ
                           ่
                                  ่
                                                                                       ้
                                           ำ
                                                                    ิ
                                                                                 ้
                                                                                                           ำ
                                  �
                               ุ
                                                                                                       ั
        มาเปนเวลานานนบ  ๑๐  ป  พบวาสิ่าเหตของการื่อกเสิ่บ           ในข้ณะที�จากการศึกษาในผิู้ป่วย HIV โดยทีมวจยกลบพื่บว่า
                                                     ั
                        ั
                                                                                                      ิ
                                     ่
                                            ุ
                                ี
             ็
                                                                                                           ั
                                                      ้
                                                      ุ
                                                                             ิ
                             ้
                                                        ั
                          ่
                                                                                             ้
                                                                     ุ
        มหลายชุนด แตละชุนดใหการื่รื่ักษาแตกตางกนไป ภ่ม่คมกน    สูาเหิตข้องการเกดอาการแทรกซ้อนดวย “โรื่คเสิ่้นปรื่ะสิ่าที่ตา
                     ่
                 ่
                                              ั
                                           ่
         ่
           ่
                 ่
                                                                                                            ึ
                                                                 ั
                                                                                                        ี
                                                                                                          ิ
                                                                          ู
                                 ่
                                                    ั
        ชุนดใหม่ที่�เป็นสิ่าเหตุของการื่เกด “โรื่คเสิ่้นปรื่ะสิ่าที่ตาอกเสิ่บ”  อกเสิ่บ” ในผิ้ป่วย HIV นอกจากจะเป็นผิลกระทบท�เกดข้�นจาก
              ่
                                                                                              ้
                                                                                       �
                                                                      ื
               ั
                                                                                ู
                  ้
                                           ่
                                                                             ้
                                                                         ื
                                                                         �
                                                                                                 ่
                                                                                 ิ
                                         ่
                                                                                  ้
          ่
           ่
                                      �
                                      ่
                                                    �
        ที่ที่มวจยคนพบครื่ั�งแรื่กของโลกนม่ชุ�อวา  “แอนตโจวัน”   การตดเช�อเนองดวยภัมคมกนทตาลงแลว แตอาจเป็นไดจากกรณ ี
                                                                                     ั
          �
                                                    ่
                                                                                        ำ
                                                                                                          ้
                                                                                       ี
                                                                    ิ
                                                                                  ุ
        (Anti-Jo1    Associated-optic  Neuritis)  ซี�งม่ลกษณิะ  ทผิ้ป่วย HIV มีภัมคมกนสููงข้�นกว่าเดมจนกลายเป็น “ปฏิกรื่่ยา
                                                                               ุ
                                                                              ิ
                                                                               ้
                                                                             ู
                                                    ั
                                                                                 ั
                                                                                                             ่
                                                                                      ึ
                                                                 �
                                                                                            ิ
                                                                  ู
                                                ึ
                                                                                                            ่
                                                                 ี
                                                         ึ
                      ึ
             ั
                                                         �
                                          ึ
                                                 ่
                          �
                                          �
                                                                        ั
        การื่อกเสิ่บมากข�นเรื่่อยๆ  จากตาข้างหนงไปยังอกข้างหนง   สิ่ะที่้อนกลบ”  (Immune  reconstitution  inflammatory
                                     ่
        บางรื่ายอาจใชุ้เวลานานหลายเดอน  รื่ักษาไดโดยการื่ใชุ ้  syndrome)  ซ�งสูามารถรักษาตามอาการดวยสูเตยรอยด   ์
                                                                                                     ้
                                                                                                          ี
                                                                            ึ
                                                ้
                                                                                        ี
           ่
                 ์
                                                                                                  ู
                                                                                                            �
                                                                                                            ี
        สิ่เตยรื่อยด และยากดภ่ม่เป็นเวลานาน                    พื่ิจารณาใช้โดยแพื่ทยผิเช�ยวชาญ  ผิ้ป่วยกลมนมักม  ี
                                                                                      ้
                                                                                      ู
                                                                                    ์
                                                                                                         ุ
                                                                                                         ่
                    ี
                                                      ่
                   ็
              อย่างไรกด  ผู้่้ชุ่วยศิาสิ่ตรื่าจารื่ย์  แพที่ย์หญงปนษฐา   พื่ยากรณโรคทีด ี
                                                                           �
                                                                       ์
                                                  ่
                   ้
        จนดาหรื่า ไดอธิบายเพื่�มเตมว่า “โรื่คเสิ่้นปรื่ะสิ่าที่ตาอกเสิ่บ”         เพื่ียงหิม�นสูังเกตอาการดวยตนเองโดยใชมือปดดวงตา
         ่
                                                                         ั
                                                                                       ้
                                                                                                     ้
                              ิ
                                                    ั
                                                                                                         ิ
                           ิ
                                                                          ้
                                           ่
        เป็นโรคซ�งเกดท�บริเวณเสู้นประสูาทท�เช�อมตอดวงตาและสูมอง   แตละข้้าง แลวทดลองอานหินงสูือและมองสูีตางๆ เพื่�อสูังเกต
                                                                                                    ่
               ึ
                                                                                                          ื
                                                                                       ั
                                                                                   ่
                     ี
                                       ื
                  ิ
                                                                  ่
                                      ี
                                                     ิ
                                                  ุ
                                                                                  ็
                                                                                                ่
                                                   ั
        โดยมีอาการสูายตาพื่ร่ามัวในระยะแรกเริ�ม และแม้อบตการณ ์  ศักยภัาพื่ในการมองเหินว่าลดลงหิรือไม  พื่ร้อมเปรียบเทียบ
                                                                                                              ้
                                                 ่
                                                  ึ
                                                                           ่
        ข้อง  “โรื่คเสิ่้นปรื่ะสิ่าที่ตาอกเสิ่บ”  จะพื่บเพื่ยงไมถง  ๒  ราย  ดูความแตกตางในการมองเหินข้องดวงตาแตละข้้างดวย
                               ั
                                            ี
                                                                                         ็
                                                                                                       ่
                                     ่
                                          ิ
        ตอประชากร  ๑  แสูนราย  แตกไมควรน�งนอนใจ  เนองจาก       จะทาใหิทุกคนสูามารถหิางไกลความเสู�ยงตอการเกด
                                                                                                    ี
         ่
                                  ็
                                 ่
                                                                   ำ
                                                    �
                                                                                      ่
                                                                       ้
                                                                                                               ิ
                                                                                                        ่
                                                    ื
                     ุ
        อาจเป็นสูาเหิตทาใหิสููญเสูียการมองเหินในระยะรนแรงได ้  โรคเสู้นประสูาทตาอกเสูบในระยะรนแรงได  ้
                                                                                           ุ
                                                   ุ
                                                                               ั
                      ำ
                          ้
                                         ็
   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13