Page 8 - MU_6June64
P. 8

8                                          มหิดลสาร ๒๕๖๔                                    June 2021




        ม.มหิิดล ระดมสมองผ่ลักดันนโยบายส้งวัยอย่างมีพลัง


        สัมภำษณ์และเข้ียนข้่ำวโดย ฐิติรัตน์ เดช้พรหม
        *ข้อข้อบคุณภำพจำก AIHD



              ๓๘ ปีที� สถำบันพัฒนำสุข้ภำพอำเซีียนมหำวิทยำลัยมหิดลได้
        รับกำรก่อตั�งเพื�อส่งเสริมและพัฒนำงำนสำธำรณสุข้มูลฐำนข้อง
        ประเทศไทย และภูมิภำคอำเซีียน โดยได้รับกำรสนับสนุนจำก
        รัฐบำลไทย และองค์กำรควำมร่วมมือระหว่ำงประเทศแห่งญี�ปุ่น
        (JICA) ซีึ�งญี�ปุ่นเป็นประเทศที�ครองแช้มป์คนที�มีอำยุยืนมำกที�สุด
        ในโลกนั�น ได้มีกำรศึกษำแลกเปลี�ยนเรียนรู้ถึงป้จจัยสู่กำรมีช้ีวิตที�
        ยืนยำวและยั�งยืน เพื�อน�ำมำปรับใช้้กับสังคมไทยตลอดเวลำที�ผ่่ำนมำ
             ผ่่้ช�วยศิาสิ่ตรื่าจารื่ย์ ดรื่. นายแพทย์ว่ชช์ เกษมทรื่ัพย์ รองผู่้
        อ�ำนวยกำรฝ่่ำยข้ับเคลื�อนนโยบำย สถำบันพัฒนำสุข้ภำพอำเซีียน
        มหำวิทยำลัยมหิดล ในฐำนะหัวหน้ำ “โครื่งการื่ว่จัยสิ่านพลังต่ดตาม
        และสิ่นับสิ่นุนกรื่ะบวนการื่ นโยบายสิุ่ขภาพเพ่�อรื่องรื่ับสิ่ังคมสิ่่งวัย
        ท่�ม่คุณภาพ” ซีึ�งได้รับกำรสนับสนุนจำก ส�ำนักงำนกองทุนสนับสนุน
        กำรสร้ำงเสริมสุข้ภำพ (สสส.) ให้ด�ำเนินโครงกำรระหว่ำงวันที� ๑๕
        เมษำยน – ๓๐ มิถุนำยน ๒๕๖๔ กล่ำวว่ำ จำกที�สถำบันฯได้เป็นผู่้
        วำงรำกฐำนด้ำนกำรส่งเสริมและพัฒนำงำนสำธำรณสุข้มูลฐำน
        ข้องประเทศ ซีึ�งที�ผ่่ำนมำระบบสำธำรณสุข้มูลฐำนข้องไทยได้แสดง
        ศักยภำพในกำรพัฒนำกำรสำธำรณสุข้ไทยหลำยเรื�อง ผ่่ำนกำร
        ท�ำงำนบริกำรสำธำรณสุข้ในพื�นที�พร้อมด้วยอำสำสมัครประจ�ำ
        หมู่บ้ำน (อสม.) ทั�วประเทศกว่ำล้ำนคน ที�เห็นช้ัดใกล้ๆ นี�ก็คือ กำร
                                                                  ผ่้้ช่่วยศาสตราจัารย์ ดร. นายแพทึย์วิช่ช่์ เกษมทึรัพย์
        ควบคุมป้องกันโรคระบำด COVID-19 ในปี พ.ศ.๒๕๖๓ ได้ส�ำเร็จ
                                                                         รองผู่้อ�ำนวยกำรฝ่่ำยข้ับเคลื�อนนโยบำย
        เป็นอย่ำงดี
                                                                       สถำบันพัฒนำสุข้ภำพอำเซีียน มหำวิทยำลัยมหิดล
             ป้จจุบันเมื�อสังคมไทยก้ำวสู่สังคมผู่้อำยุมำกกว่ำ  ๖๐  ปี
         เกือบร้อยละ ๒๐ หรือมำกกว่ำ ๑๒ ล้ำนคน บทบำทข้อง อสม.
        และระบบสำธำรณสุข้มูลฐำนก็ปรับเปลี�ยนไป มีบทบำทเพิ�มเติม  tive Aging) ได้ โดยพบว่ำผู่้สูงวัย เป็นวัยที�น่ำจะมี “สิุ่ขภาวะทาง
        เพื�อไปควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื�อรังแก่ผู่้สูงวัย รวมถึงคอยสอดส่อง  ป้ญี่ญี่า” ดีกว่ำประช้ำกรในวัยอื�น เนื�องจำกมีประสบกำรณ์ช้ีวิตที�
        ดูแล และส่งเสริมคุณภำพช้ีวิตผู่้สูงอำยุโดยใช้้ชุ้มช้นเป็นพื�นฐำน   สูงกว่ำ และเข้้ำใจควำมเป็นจริงในโลกมำกกว่ำ เปรื่่ยบเหม่อน “
        (Community-based Care) เพื�อกำรดูแลในระยะยำวที�ยั�งยืนต่อ  ขุมทรื่ัพย์” (asset) ท่�จะยังปรื่ะโยชน์ให้กับสิ่ังคมท่�ท�านเหล�านั�น
        ไปอีกด้วย                                              อาศิัยอย่�ตั�งแต�ในรื่ะดับครื่อบครื่ัวชุมชน ไปจนถ่งรื่ะดับปรื่ะเทศิ
             จำกกรณีศึกษำประเทศญี�ปุ่น ซีึ�งมีประช้ำกรอำยุยืนมำก  ได้ ไม�ใช�ต้องเป็นแต�ภารื่ะของสิ่ังคม โดยเฉพาะในยุคด่จ่ทัลเช�น
        ที�สุดในโลก พบว่ำสังคมญี�ปุ่นต้องพัฒนำระบบกำรดูแลระยะยำว  ป้จจุบัน และคำดว่ำในอีก ๒๐ ปีข้้ำงหน้ำจะมีประช้ำกรกลุ่มใหญ่
         (Long-Term Care) และกำรประกันกำรดูแลระยะยำว (Long-    ที�เกิดระหว่ำงปีพ.ศ.๒๕๐๖ – ๒๕๒๖ ซีึ�งเป็นช้่วงที�มีจ�ำนวนคนเกิด
        Term Care Insurance) เพื�อรองรับผู่้สูงวัยที�มีเป็นจ�ำนวนมำก   ในประเทศไทยมำกกว่ำล้ำนคนต่อปีติดต่อกันกว่ำ ๒๐ ปี (ป้จจุบัน
        ซีึ�งเป็นรื่ะบบปรื่ะกันท่�ทำาให้คนญี่่�ปุ�นได้รื่ับการื่ด่แลในวัยเกษ่ยณ  เกิดประมำณ ๖ แสนคนต่อปี) ก�ำลังจะเปลี�ยนผ่่ำนช้่วงช้ีวิตไปสู่
        จากภาษ่รื่ัฐิบาล  ท่�ถ่งแม้ไม�สิ่ามารื่ถนำามาใช้กับปรื่ะเทศิไทย  วัยสูงอำยุ ซีึ�งต่ำงมีควำมสำมำรถในกำรใช้้เทคโนโลยีดิจิทัลอยู่
        ได้ ๑๐๐% เน่�องจากไทยและญี่่�ปุ�นม่โครื่งสิ่รื่้างทางปรื่ะชากรื่   ในเกณฑ์์ที�ใช้้ได้ไปจนถึงดีมำก ถ้ำรัฐบำลมีกำรผ่ลักดันให้มีนโย
        เศิรื่ษฐิก่จ และสิ่ังคมท่�แตกต�างกัน แต�เม่�อเม่องไทยกำาลังดำาเน่น  บำยเพื�อสร้ำงระบบมำช้่วยให้ผู่้สูงวัยกลุ่มนี�ได้แสดงศักยภำพที�มี
        รื่อยตามญี่่�ปุ�นในการื่เข้าสิ่่�สิ่ังคมสิ่่งวัย  เรื่าก็สิ่ามารื่ถนำารื่ะบบ  อยู่อย่ำงเต็มที� เช้ื�อว่ำท่ำนเหล่ำนี�จะน�ำพำสังคมไทยไปสู่สังคมสุข้
        เหล�าน่�มาปรื่ับให้กับบรื่่บทปรื่ะเทศิไทยท่�ไม�ได้รื่ายได้เฉล่�ยของ  ภำวะ และมีควำมเจริญก้ำวหน้ำไปสู่กำรเป็นประเทศที�พัฒนำแล้ว
        ปรื่ะชากรื่สิ่่งเท�าญี่่�ปุ�น  โดยเรื่ามุ�งใช้ชุมชนเป็นพ่�นฐิาน  (Com-  ได้อย่ำงแน่นอน
        munity-based Care) เพ่�อให้สิ่มาช่กชุมชนได้ด่แลซึ่่�งกัน เพ่�อ      ดังนั�นกำรส่งเสริมให้ผู่้สูงอำยุได้มีงำนท�ำที�เหมำะสม และท�ำ
        ก�อให้เก่ดสิ่ังคมท่�ไม�ทอดท่�งกันผ่�านโครื่งข�ายการื่สิ่าธ์ารื่ณสิุ่ข  กิจกรรมผ่่ำนกำรใช้้เทคโนโลยีดิจิทัล เช้่น กำรมีนโยบำยสนับสนุน
        ม่ลฐิานท่�เข้มแข็งในชุมชนซึ่่�งเป็นจุดเด�นของปรื่ะเทศิไทยท่�ญี่่�ปุ�น  ให้มีกำรใช้้อินเทอร์เน็ตฟื้รีได้ทุกที�ทุกเวลำ นอกจำกจะช้่วยท�ำให้ผู่้
        ไม�ม่                                                  สูงอำยุที�มีสมรรถภำพทำงกำยที�อำจจะไม่เหมำะสมกับกำรท�ำงำน
              อย่ำงไรก็ตำม ผ่่้ช�วยศิาสิ่ตรื่าจารื่ย์ ดรื่. นายแพทย์ว่ชช์ เกษม  แบกหำมอย่ำงหนักได้แสดงศักยภำพทำงป้ญญำได้อย่ำงเต็ม
        ทรื่ัพย์ อธิบำยว่ำ ผู่้สูงวัยซีึ�งมีอำยุระหว่ำง ๖๐ – ๘๐ ปีนั�น จ�ำนวน  ที�แล้ว ยังจะสำมำรถช้่วยป้องกันควำมเสื�อมต่ำงๆ ทำงร่ำงกำย
        มำกไม่ได้ต้องกำรให้มีคนมำดูแล เพรำะยังมีก�ำลังในกำรท�ำกิจวัตร  และจิตใจ เช้่น สมองเสื�อม หรือภำวะเหงำ ซีึมเศร้ำได้เป็นอย่ำงดี
        ประจ�ำวันได้เป็นอย่ำงดี และสำมำรถเป็น “ผ่่้สิ่่งวัยท่�ม่พลัง” (Ac-  อีกด้วย
   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13