Page 10 - MU_6June64
P. 10
10 มหิดลสาร ๒๕๖๔ June 2021
ด้วยเหตุนี� นักวิช้ำกำรและบุคลำกรทำง มากกว�าอาการื่อ่�นๆ เช�น อาการื่ไข้ ไอแห้ง
กำรแพทย์จำกหลำยหน่วยงำน จึงร่วมมือกัน ด้วย) ซึ่่�งในคนไทยพบการื่เปล่�ยนแปลงการื่
ท�ำวิจัย เพื�อศึกษำควำมสัมพันธ์ข้องกำรรับรู้ รื่ับกล่�นรื่สิ่สิ่่งกว�าปรื่ะเทศิอ่�นในเอเช่ย ถ่ง
กลิ�นรสกับกำรติดเช้ื�อ COVID-19 โดยใช้้กำร ๒ เท�า ดังนั�นในช้่วงที�มีกำรแพร่ระบำดข้อง
วิจัยเช้ิงสังเกตแบบมีกลุ่มควบคุม (case-control เช้ื�อไวรัส COVID-19 ส�ำหรับคนที�สุข้ภำพดี
study) ซีึ�งเป็นรูปแบบกำรศึกษำที�ได้รับกำร ไม่มีโรคประจ�ำตัว แต่รู้สึกว่ำกำรรับกลิ�นรส
ยอมรับในกำรวิจัยทำงระบำดวิทยำ โดยท�ำ มีควำมผ่ิดปกติอย่ำงกะทันหัน เช้่น อำหำร
กำรศึกษำในกลุ่มอำสำสมัครจ�ำนวน ๓๖๖ คน ไม่อร่อย จมูกไม่ได้กลิ�น ลิ�นไม่รู้รส หรือได้ รื่องศิาสิ่ตรื่าจารื่ย์ ดรื่. ทันตแพทย์หญี่่ง
ระหว่ำงเดือนเมษำยน ถึงเดือนมิถุนำยน กลิ�นรสผ่ิดปกติ รวมถึงมีประวัติสัมผ่ัสที�เสี�ยง ดุลยพรื่ ตรื่าช่ธ์รื่รื่ม ก่อนหน้ำนี� พบว่ำ สิุ่ขภาพ
พ.ศ.๒๕๖๓ ซีึ�งเป็นช้่วงที�มีควำมชุ้กในกำรแพร่ ก็ควรรีบไปตรวจเช้ื�อ COVID-19 เนื�องจำก ช�องปากเป็นป้จจัยสิ่ำาคัญี่ท่�ม่ผ่ลต�อความ
ระบำด COVID-19 ในประเทศไทย โดยท�ำกำร เป็นสัญญำณอันตรำยที�บ่งช้ี�ถึงควำมเสี�ยง อยากอาหารื่ โดยผ่่้ท่�ช�องปากไม�สิ่ะอาดม่
ศึกษำในอำสำสมัครที�มำตรวจเช้ื�อ COVID-19 ในกำรติดเช้ื�อ ทั�งนี�กำรศึกษำวิจัยดังกล่ำว ครื่าบจุล่นทรื่่ย์บนล่�นมาก จะรื่ับรื่่้รื่สิ่ชาต่ได้
ด้วยวิธีกำร PCR จำกนั�นแบ่งอำสำสมัครออก ด�ำเนินกำรในช้่วงที�มีกำรระบำดข้องสำยพันธุ์ ไม�ด่ ดังนั�น การื่ทำาความสิ่ะอาดล่�นทุกวัน
เป็น ๒ กลุ่ม คือ กลุ่มที�ตรวจแล้วติดเช้ื�อ (case Wuhan สำยพันธุ์อื�นอำจพบอำกำรดังกล่ำว โดยการื่ใช้แปรื่งขนนุ�มพ่เศิษ กับนำาเปล�า
group) และกลุ่มที�ตรวจแล้วไม่ติดเช้ื�อ (control ได้เช้่นกันในจ�ำนวนมำกน้อยแตกต่ำงกันไป (ห้ามใช้ยาสิ่่ฟั้นมาแปรื่งล่�นเด็ดขาด !!)
group) รื่องศิาสิ่ตรื่าจารื่ย์ ดรื่. ทันตแพทย์หญี่่ง สิ่ามารื่ถช�วยให้การื่รื่ับรื่่้รื่สิ่ชาต่ด่ข่�นได้ ซึ่่�ง
ผ่ลจากการื่ศิ่กษาพบว�า การื่รื่ับกล่�นรื่สิ่ด้อย ดุลยพรื่ ตรื่าช่ธ์รื่รื่ม ยังกล่ำวเพิ�มเติมอีกว่ำ เม่�อรื่่้รื่สิ่อาหารื่ ความอยากอาหารื่ก็ม่มากข่�น
ลงนั�นไม�ได้บ�งช่�เสิ่มอไปว�ามาจาก COVID-19 ผ่ลกำรศึกษำนี�ยังแสดงให้เห็นถึงควำมสัมพันธ์ จ่งอาจลดโอกาสิ่เสิ่่�ยงต�อภาวะทุพโภชนาการื่
เพรื่าะสิ่ามารื่ถเก่ดจากสิ่าเหตุอ่�นๆ ได้ แต�การื่ ระหว่ำงกำรติดเช้ื�อ COVID-19 กับควำมอยำก ได้ นอกจากน่� ผ่่้ท่�ต่ดเช่�อ COVID-19 ยังควรื่
สิ่่ญี่เสิ่่ยการื่รื่ับกล่�นรื่สิ่อย�างสิ่มบ่รื่ณ์ ค่อ จม่ก อำหำรในผู่้ป่วย โดยผู่้ป่วยที�ติดเช้ื�อจะสูญเสีย ด่แลด้านโภชนาการื่ รื่ับปรื่ะทานอาหารื่หลัก
ไม�ได้กล่�น ล่�นไม�รื่่้รื่สิ่เลยนั�น สิ่ัมพันธ์์อย�าง ควำมอยำกอำหำรจึงเสี�ยงเกิดภำวะทุพโภช้นำ ให้ครื่บ ๕ หม่� เพ่�อลดความเสิ่่�ยงในการื่ขาด
มากกับการื่ต่ดเช่�อโรื่ค COVID-19 (สิ่ัมพันธ์์ กำรซีึ�งจำกประสบกำรณ์กำรท�ำงำนวิจัยข้อง สิ่ารื่อาหารื่ และช�วยเสิ่รื่่มภ่ม่คุ้มกันอ่กด้วย