Page 11 - MU_6June64
P. 11

June 2021                                  มหิดลสาร ๒๕๖๔                                             11





         ม.มหิิดล วิจััยเช่ิงนโยบาย


         ปรับนิยามผ่้้ส้งอายุ-ข้ยายอายุแรงงาน

        สัมภำษณ์ และเข้ียนข้่ำวโดย ฐิติรัตน์ เดช้พรหม
        ภำพจำกผู่้ให้สัมภำษณ์


            วันที� ๑๓ เมษำยน ข้องทุกปี เป็นวันผู่้สูงอำยุแห่งช้ำติ ซีึ�งเป้า
        หมายการื่พัฒนาคุณภาพช่ว่ตของผ่่้สิ่่งอายุทั�วโลกขององค์การื่
        อนามัยโลก (WHO) ค่อการื่เป็น Active Aging หรื่่อ “สิ่่งวัยอย�าง
        ม่พลัง” ป้จจุบันพบว่ำผู่้สูงอำยุในหลำยประเทศที�พัฒนำแล้วยังคง
        ท�ำงำนพึ�งพำตนเอง เป็นกำรท�ำให้ผู่้สูงอำยุมีคุณภำพช้ีวิตที�ดี จำก
        กำรได้ท�ำงำน อยู่อย่ำงมั�นคง และมีคุณค่ำ แต่กลับพบว่ำในช้่วง
        ๒๐ ปีที�ผ่่ำนมำผู่้สูงอำยุไทยท�ำงำนน้อยลงเรื�อยๆ
            รื่องศิาสิ่ตรื่าจารื่ย์ ดรื่.เฉล่มพล แจ�มจันทรื่์ อำจำรย์ประจ�ำ
        สถำบันวิจัยประช้ำกรและสังคม มหำวิทยำลัยมหิดล (IPSR) เปิด
        เผ่ยว่ำ ผ่ลจากงานว่จัยของสิ่ถาบัน IPSR พบว�า ในช�วง ๒๐ ปี
        ท่�ผ่�านมา ผ่่้สิ่่งอายุไทยในป้จจุบัน ม่จำานวนถ่งปรื่ะมาณ ๑๒ ล้าน
        คน หรื่่อรื่้อยละ ๑๘ ของปรื่ะชากรื่ทั�งหมด ม่อัตรื่าการื่ทำางาน
        เพ่ยงปรื่ะมาณ ๑ ใน ๓ โดยม่แนวโน้มน้อยลงเรื่่�อยๆ หลังเกษ่ยณ
         หรื่่ออายุ ๖๐ ปีข่�นไปในวัยผ่่้สิ่่งอายุ ตำมกำรนิยำมผู่้สูงอำยุข้อง
        ไทย โดยส่วนหนึ�งเกิดจำกมโนคติที�ว่ำ เมื�ออำยุ ๖๐ ปีแล้ว ถึงเวลำ
        หยุดท�ำงำนมำใช้้ช้ีวิตในบั�นปลำยอยู่กับลูกหลำน โดยมีรำยได้
        หลักเพียงจำกทรัพย์สินที�ตนออมไว้ และกำรเกื�อกูลจำกลูกหลำน
                                                                    รองศาสตราจัารย์ ดร.เฉลิมพล แจั่มจัันทึร์
        ในครอบครัว หรือเงินบ�ำเหน็จบ�ำนำญ เฉพำะในกลุ่มข้้ำรำช้กำร
                                                                     สถำบันวิจัยประช้ำกรและสังคม มหำวิทยำลัยมหิดล
         พนักงำนภำครัฐ รัฐวิสำหกิจ หรือผู่้ประกันตน ประกันสังคมที�
        เข้้ำข้่ำยได้รับสิทธิประโยช้น์ กรณีช้รำภำพ ซีึ�งมีจ�ำนวนไม่มำก
                                                                         จำกกำรวิจัยประช้ำกรในพื�นที�กรุงเทพมหำนครที�ผ่่ำนมำ มีกำร
            แต่ด้วยภำวะทำงประช้ำกรที�เปลี�ยนไป พบว่ำประช้ำกรไทย
                                                               เก็บข้้อมูลอย่ำงต่อเนื�องจนถึงป้จจุบัน ได้ให้ข้้อเสนอแนะในเช้ิง
        ในช้่วง ๒๐ ปีที�ผ่่ำนมำนิยมเป็นโสด แต่งงำนและมีลูกกันน้อยลง
                                                               นโยบำย เพื�อให้มีกำรปรับนิยำมผู่้สูงอำยุ ก�ำหนดกลุ่มเป้ำหมำย
        จนส่งผ่ลให้มีจ�ำนวนอัตรำกำรเกิดที�ตำำลงด้วย จึงท�ำให้ผู่้สูงอำยุ
                                                               ข้องกำรข้ยำยอำยุเกษียณ และกำรให้กำรคุ้มครองกำรท�ำงำน
        ไทยในป้จจุบัน ไม่สำมำรถใช้้ช้ีวิตในบั�นปลำยได้อย่ำงมั�นคงด้วย
                                                               ที�ช้ัดเจน จากข้อม่ลทางด้านสิุ่ขภาพพบว�า กลุ�มปรื่ะชากรื่ท่�อย่�ในวัย
        เพียงกำรเกื�อหนุนจำกลูกหลำนเป็นหลักเท่ำนั�น นอกจำกนี�ยังพบ
                                                               ๖๐ - ๖๔ ปียังคงม่สิุ่ขภาพกายและสิุ่ขภาพจ่ตท่�แข็งแรื่ง ตลอดจน
        ว่ำ การื่ใช้ช่ว่ตอย่�โดยไม�ม่ความมั�นคงทางรื่ายได้จะทำาให้เก่ด
                                                               ม่ความพรื่้อมทางด้านสิ่ต่ป้ญี่ญี่า และมากด้วยปรื่ะสิ่บการื่ณ์
        พลังช่ว่ต หรื่่อ Active ลดลง ซึ่่�งสิ่�งผ่ลเสิ่่ยต�อสิุ่ขภาพกาย และ
                                                               ถ่อเป็น Active Aging ซึ่่�งม่ศิักยภาพท่�จะทำางานตามเป้าหมาย
        สิุ่ขภาพจ่ตอ่กด้วย
                                                               การื่พัฒนาคุณภาพช่ว่ตของผ่่้สิ่่งอายุขององค์การื่อนามัยโลก
            ในจ�ำนวนแรงงำนทั�งหมดในประเทศไทย เพียงร้อยละ ๑๐ เป็น
                                                               (WHO) ต�อไปได้
        แรงงำนในภำครัฐ การื่ขยายอายุเกษ่ยณควรื่ข่�นอย่�กับบรื่่บท
        การื่ทำางานในแต�ละกลุ�มปรื่ะชากรื่ จะแตกต�างกันไปในแต�ละ
        ลักษณะงาน โดยที�ผ่่ำนมำพบว่ำมีข้้ำรำช้กำรเพียง ๒ กลุ่มที�ได้รับ
        กำรข้ยำยอำยุเกษียณ คือ อำจำรย์ในมหำวิทยำลัย และข้้ำรำช้กำร
        ตุลำกำรศำลยุติธรรม ซีึ�งได้รับควำมมั�นคงจำกระบบบ�ำเหน็จ-
        บ�ำนำญ นอกจำกนั�นอยู่ในภำคเอกช้นซีึ�งได้รับกำรคุ้มครองจำก
        ระบบประกันสังคม และท่�น�าเป็นห�วง ค่อ กลุ�มแรื่งงานนอกรื่ะบบ
        ท่�ไม�ได้รื่ับการื่คุ้มครื่องการื่ทำางานในรื่่ปแบบใดๆ ได้แก� กลุ�ม
        ผ่่้ปรื่ะกอบธ์ุรื่ก่จสิ่�วนตัว และแรื่งงานภาคเกษตรื่ ซึ่่�งเป็นกลุ�ม
        ปรื่ะชากรื่ท่�อย่�ในสิ่ัดสิ่�วนจำานวนมากในป้จจุบัน
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16