Page 12 - MU_11Nov62.pdf
P. 12
Research Excellence
ฐิติรัตน์ เดชพรหม
อาจารย์ ดร.พรินท์พิดา สนธิพันธ์
ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล
ค้นพบวิธีบ�าบัดสารหนูโดยใช้ชีววิธีด้วยกลุ่มจุลินทรีย์ท้องถิ่น ลดการปนเปื้อนแหล่งน�้าใต้ดิน
“สารหนู” เป็นสารที่พบได้ในธรรมชาติ แนวทางในการบ�าบัดมลพิษด้วยวิธีทาง “งานวิจัยทางด้านจุลินทรีย์บ�าบัดสารหนู
เนื่องจากเป็นองค์ประกอบของดิน หิน และแร่ ชีวภาพ” โดยได้ท�าการศึกษาบริเวณแอ่งน�้า หรือเปลี่ยนรูปสารหนูในประเทศไทยมีการ
ต่างๆ มีรายงานการตรวจพบปริมาณสารหนู ใต้ดินในพื้นที่จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ศึกษาน้อยมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพียงแค่การ
เกินเกณฑ์มาตราฐานบริเวณแหล่งน�้าใต้ดิน แหล่งชุมชนขนาดใหญ่ และได้รับผลกระทบ ส�ารวจเบื้องต้นเท่านั้น เนื่องจากวิถีการ
ในประเทศไทย การปนเปื้อนนั้นเกิดได้ทั้ง จากการท�าเกษตรกรรม โรงงานอุตสาหกรรม เปลี่ยนรูปสารหนูโดยจุลินทรีย์นั้นค่อนข้าง
จากธรรมชาติ และจากกิจกรรมของมนุษย์ จากการตรวจวัดปริมาณสารหนูในน�้าใต้ดิน ซับซ้อน จึงต้องมีการพัฒนาองค์ความ
เช่น การท�าเกษตรกรรม และการท�าเหมืองแร่ ในเขตอ�าเภอเมือง พบว่าสารหนูในน�้าใต้ดิน รู้ที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอ เพื่อน�ามาพัฒนา
เมื่อมนุษย์ได้รับสารหนูปริมาณมากจะก่อให้ บางบ่อมีค่าเกินปริมาณมาตรฐานที่ก�าหนด เทคโนโลยีการบ�าบัดสารหนูทางชีวภาพ
เกิดอาการเฉียบพลัน เช่น ท้องเสีย อาเจียน โดยกรมควบคุมมลพิษ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยงาน
มึนเมา ตาพร่ามัว เป็นต้น แต่หากได้รับ อาจารย์ ดร.พรินท์พิดา สนธิพันธ์ วิจัยของเราจะท�าการศึกษาอย่างครบวงจร
ปริมาณน้อยและมีระยะเวลานานจะก่อให้เกิด กล่าวว่า “สารหนูรูปแบบที่อยู่ในน�้าใต้ดิน ตั้งแต่งานวิจัยขั้นพื้นฐานจนถึงการน�าไป
อาการพิษเรื้อรัง เช่น เกิดอาการที่ผิวหนัง เกิด เป็ นรูปแบบที่มีพิษมากที่สุด เรียกว่า ประยุกต์ใช้แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมปนเปื้อน
โรคมะเร็ง และเสียชีวิตได้ในที่สุด ซึ่ง องค์การ “อาร์ซิไนต์” ซึ่งสามารถละลายในน�้าได้ดี
อนามัยโลก (WHO) ได้มีการจัดอันดับให้ และเคลื่อนที่ไปตามการไหลของน�้าใต้ดิน ซึ่งนอกจากการแก้ปัญหาสารหนูปนเปื้อน
สารหนูเป็นสารอันตรายใน ๑๐ อันดับ ท�าให้เกิดการแพร่กระจายได้ในบริเวณกว้าง แล้ว ยังสามารถน�าไปใช้เป็นแนวทางในการ
แรก โดยก�าหนดให้คุณภาพน�้าส�าหรับ ซึ่งจากงานวิจัยเราจะใช้กลุ่มจุลินทรีย์ ศึกษาวิจัยเพื่อบ�าบัดสารพิษอื่นๆ ที่เป็นปัญหา
การบริโภคไม่ควรมีสารหนูปนเปื้อนเกิน เฉพาะเปลี่ยนให้สารหนูที่ละลายในน�้าได้ ได้ด้วย จากปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน
๐.๐๑ มิลลิกรัมต่อลิตร ดีเป็นรูปแบบที่ละลายน�้าไม่ดี หรือ “อาร์ซิ ท�าให้เกิดการสะสมของสารพิษ รวมทั้งพบ
จากปัญหาดังกล่าวท�าให้ อาจารย์ เนต” ซึ่งเป็นรูปแบบที่มีพิษลดลง โดยจะ สารพิษใหม่ๆ มากขึ้นซึ่งส่งผลกระทบโดยตรง
ดร.พรินท์พิดา สนธิพันธ์ ภาควิชาชีววิทยา จับอยู่กับประจุบนดินซึ่งสามารถลดการ ต่อสุขภาพ ซึ่งการบ�าบัดสารพิษโดยชีววิธี
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้คว้า เคลื่อนที่และการปนเปื้อนของสารหนูได้ นับเป็นวิธีทางเลือกที่มีศักยภาพที่จะน�าไป
ทุนช่วยเหลือทางด้านวิจัยวิทยาศาสตร์และ เป็นการบ�าบัดสารหนูโดยใช้ประโยชน์จาก ใช้บ�าบัดสารพิษเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อ
เทคโนโลยี จาก มูลนิธิโทเรเพื่อการส่งเสริม ความหลากหลายทางชีวภาพของกลุ่ม สิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด โดยต้องเริ่มจากการ
วิทยาศาสตร์ประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ริเริ่ม จุลินทรีย์ท้องถิ่น โดยขณะนี้การศึกษาวิจัย ท�าวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และแนวทาง
วิจัย “การศึกษาจุลินทรีย์ที่มีบทบาทใน ยังอยู่ในระยะเริ่มต้น ต่อไปจะมีการเพาะ การน�าไปใช้” อาจารย์ ดร.พรินท์พิดา
การเปลี่ยนรูปสารหนูในน�้าใต้ดินที่ได้รับ เลี้ยงจุลินทรีย์ที่ใช้บ�าบัดเพื่อที่จะพัฒนา สนธิพันธ์ กล่าวทิ้งท้าย
ผลกระทบจากกิจกรรมการเกษตร เพื่อเป็น ต่อยอดเป็นจุลินทรีย์พร้อมใช้ในอนาคต” ภาพรับรางวัลโดย พิมพ์ใจ พัดเย็น
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม ม.มหิดล แนะใช้สื่อออนไลน์อย่างรู้เท่าทัน
ครอบครัวอบอุ่นเกิดจากใช้เวลาร่วมกันให้มากพอในพื้นที่จริง
ฐิติรัตน์ เดชพรหม
กันยายน ๒๕๖๑ – สิงหาคม ๒๕๖๒ จากบ้านและโรงเรียน ทั้งที่อยู่ในพื้นที่ออฟ จ�านวน ๑,๕๐๐ คน และ ครู จ�านวน ๑,๕๐๐
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม ไลน์ และออนไลน์ เพื่อท�าความเข้าใจเกี่ยว คน ใน ๕ พื้นที่ คือ กรุงเทพฯ ชลบุรี เชียงใหม่
มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับทุนจากส�านักงาน กับสถานการณ์ประชากรเจเนอเรชัน ซี-อัลฟา ขอนแก่น และ สุราษฎร์ธานี เก็บข้อมูลด้วยการ
กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ของประเทศไทยในบริบทต่างๆ และน�าเสนอ สัมภาษณ์โดยทีมนักประชากร นักสังคมวิทยา
(สสส.) ให้ด�าเนินโครงการยุวชนนิเวศน์ แนวทางในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ นักมานุษยวิทยา และนักจิตวิทยา
ของประชากรเจเนอเรชัน ซี-อัลฟ่า (Child มีเป็ นมิตรต่อการเติบโตและงอกงาม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภูเบศร์ สมุทรจักร
Ecology of Thai Z-Alpha) ซึ่งเป็นประชากร ของประชากร
เจเนอเรชันล่าสุดของสังคมไทยที่จะเติบโตเป็น รุ่น ซี-อัลฟ่า ให้มี
ผู้ขับเคลื่อนสังคมไทยในอนาคต (เกิดระหว่าง ศักยภาพในการ
พ.ศ.๒๕๔๗ – ๒๕๖๖) โดยมุ่งประเด็นการ ดูแล และท�านุ
ศึกษาไปที่ความเชื่อมโยงของอิทธิพลจาก บ�ารุงสังคมไทยต่อ
๓ พื้นที่ที่แวดล้อม และส่งผลต่อพฤติกรรม ไปในอนาคต โดย
และทัศนคติของยุวชนในเจเนอเรชันนี้ การศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นเด็กอายุ รองผู้อ�านวยการฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์
ซึ่งได้แก่ บ้าน โรงเรียน และพื้นที่อื่นๆ นอกเหนือ ๓ – ๑๔ ปี จ�านวน ๑,๕๐๐ คน ผู้ปกครอง สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัย
12 November 2019 M • Master A • Altruism H • Harmony I • Integrity D • Determination O • Originality L • Leadership