Page 17 - MU_1Jan63
P. 17

Special Scoop
                                                                                                    ฐิติรัตน์ เดชพรหม















                                                 นอกจำกนั้น พบว่าเด็กท�ากิจกรรม ๓. อาบน�้าช�าระล้างร่างกายทุกครั้ง
                                              การเล่นสร้างสรรค์ลดลง แต่ไปอยู่กับ หลังกลับจากท�ากิจกรรมต่างๆ นอกบ้าน
                                              โซเชียลมีเดีย เล่นมือถือมากเกินไป                                                                          ๔. ล้างมือทุกครั้งก่อนหยิบจับอาหารเข้าปาก
                                              จึงเกิดความบกพร่องทางการเรียนรู้ ๕. ใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด ๖. ดื่มน�้าที่มาจาก
                                              ได้เช่นกัน  ซึ่งหากจะมีการอนุญาต ขวดปิดสนิท หรือน�้ากรอง และ ๗. สวมรองเท้า
                                              ให้ประกอบกิจการเหมืองต่ อใน                                                                                      ทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน
                                              พื้นที่  รัฐบาลต้องทบทวนให้ดีว่าจะ  ซึ่งหำกเด็กมีควำมรู้ส�ำหรับกำรป้องกัน
               จำกสำรโลหะหนักในจังหวัดพิจิตร พิษณุโลก  มีมาตรการที่จะป้องกันสารพิษจาก ตนเองในเบื้องต้นได้อย่ำงถูกต้อง ย่อมช่วย
               และเพชรบูรณ์ สำรโลหะหนัก โดยเฉพำะ โลหะหนักกับเด็กและชุมชนโดยรอบ หล่อหลอมจนเป็นลักษณะนิสัย และเกิด
               อย่ำงยิ่ง “สารหนู” ซึ่งจัดว่ำเป็นสารพิษ อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไรไม่ให้                            เป็นพฤติกรรมในกำรดูแลส่งเสริมสุขภำพ
               ที่มีฤทธิ์ต่อความผิดปกติทางปัญญา  ผลกระทบหวนกลับมาอีก หรือเมื่อกลับ ที่ผ่ำนมำพบว่ำเด็กๆ สนุกกับกำรเรียนรู้
               (cognitive dysfunction) ที่อำจปนเปื้อน มำควรจะต้องมีวิธีกำรควบคุมที่เข้มข้น                            ผ่ำนกิจกรรม และยังจะช่วยเผยแพร่ควำม
               ไปกับอำหำร และน�้ำดื่มจำกห่วงโซ่อำหำร ยิ่งกว่ำเดิม ส่วนเด็กๆ ที่ได้รับผลกระทบ                รู้นี้แก่เด็กในโรงเรียน ครอบครัว และชุมชน
               ในสิ่งแวดล้อม ทั้งทำงดิน น�้ำ และอำกำศ                                     จำกสำรพิษก็ยังจ�ำเป็นต้องได้รับกำร                                                       อีกด้วย ซึ่งเป็นกำรพัฒนำเด็กอย่ำงยั่งยืน
               ส่งผลท�ำให้เกิดปัญหำสุขภำพ หรือภำวะ ช่วยเหลือฟื้นฟูกันอยู่ต่อไปในระยะยำว  โดยเฟสที่ ๓ จะด�าเนินการในปี หน้า
               กำรเจ็บป่วยหรือโรคเรื้อรัง และทักษะด้ำน                          ด้ำน อาจารย์ ดร.นุชนาฏ รักษี                                                                             เพื่อประเมินติดตามผลการ Intervention
               สติปัญญำ กำรเรียนรู้           รองผู้อ�ำนวยกำรฝ่ำยวิจัย สถำบันแห่ง หรือ Post-test ต่อไป
                  จากการศึกษาติดตามผลกระทบ ในเด็ก                                                       ชำติเพื่อกำรพัฒนำเด็กและครอบครัว   ตลอด ๒๒ ปีที่ผ่านมา สถาบันแห่งชาติ
               วัยเรียนอายุ ๘ – ๑๓ ปี จ�านวน ๑๙๙ คน                     มหำวิทยำลัยมหิดล กล่ำวเสริมว่ำจำกกำร เพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว
               ในปี  ๒๕๖๒ พบว่ามีอุบัติการณ์การ ส�ำรวจปัญหำดังกล่ำวท�ำให้ทรำบเป้ำหมำย มหาวิทยาลัยมหิดล ยังคงมุ่งเป้าหมาย
               รับสัมผัสสารหนูอนินทรีย์ในปัสสาวะ ที่ชัดเจนในกำรฟื้นฟู และส่งเสริมเด็ก ซึ่งเป็น ในการเป็นหน่วยงานกลางทางวิชาการ
               มากกว่าเกณฑ์ปกติ (  ๓๕ ไมโครกรัม สิ่งส�ำคัญมำก โดยโครงการวิจัยแบ่งออก ที่จะพัฒนาเด็ก เยาวชน และครอบครัว
               ต่อลิตร ซึ่งเป็ นระดับที่เป็ นอันตราย)                       เป็น ๓ เฟส เฟสแรก คือ Pre-test เด็ก โดยโครงกำรวิจัยนี้ได้เปิดโอกำสให้นักศึกษำ
               ในเด็ก ร้อยละ ๔.๕ ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับ ใน ๔ ด้าน คือ ๑.ดัชนีชี้วัดทางชีวภาพ  ทั้งของสถำบันฯ และนักศึกษำจำกคณะอื่นๆ
               การส�ารวจในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยลดลง (Biomarker) ๒.พฤติกรรมของเด็กและ ในมหำวิทยำลัยมหิดล ได้เข้ำมำมีส่วนร่วม
               ถึง ๑๒ เท่าตัวภายในระยะเวลา ๓ ปี                                ครอบครัว (Behaviour) ๓.สติปัญญา ในกำรวำงแผน เตรียมข้อมูล และลงพื้นที่
               ซึ่งในปี ๒๕๕๙ พบสำรหนูในปัสสำวะในเด็ก และการเรียนรู้ (Cognitive& Learning)  จัดเก็บข้อมูล เป็นกำรเรียนรู้นอกห้องเรียน
               ถึงร้อยละ ๓๕.๖ และจำกกำรประเมินควำม และ ๔.การดูแลตนเองด้านอนามัย                      ซึ่งนอกเหนือจำกควำมรู้ด้ำนทฤษฎีแล้ว
               บกพร่องทำงกำรเรียน (Learning Disabilities:  สิ่งแวดล้อม (Health Literacy)   นักศึกษำจะได้เปิดมุมมอง เรียนรู้จริงจำกกำร
               LD) ในเด็ก พบควำมบกพร่องทำงกำร   ขณะนี้อยู่ในเฟสที่ ๒ คือ การส่งเสริม ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติจริง และบำงคนยังได้
               เรียนรู้ร้อยละ ๒๒.๒๒ ส่วนกำรส�ำรวจในปี                                                  เรียนรู้ และการดูแลตนเองด้านอนามัย ประเด็นไปต่อยอดท�ำเป็นวิทยำนิพนธ์
               พ.ศ.๒๕๕๙ พบภำวะบกพร่องทำงกำร สิ่งแวดล้อมในเด็ก (Intervention) โดยการ  “โครงการวิจัยเราไม่ได้ท�าเพื่อให้ได้
               เรียนอยู่ที่ ร้อยละ ๒๓.๕ นอกจำกนั้นจำก ลงพื้นที่จัดอบรมติดปีกความรู้ให้กับครู รับการตีพิมพ์เผยแพร่เพียงอย่างเดียว
               กำรประเมินระดับสติปัญญำ (Intelligence  ทั้ง ๖ โรงเรียน เริ่มจำกกำรปรับทัศนคติให้ แต่เด็กและครอบครัวสามารถน�าไปใช้
               Quotient: IQ) พบว่ำเด็กมีระดับสติปัญญำ  ครูเข้ำใจควำมบกพร่องของเด็ก และตระหนัก ประโยชน์ได้จริง และเพื่อเป็นต้นแบบใน
               IQ ปกติ (เกณฑ์เฉลี่ย) ร้อยละ ๕๙.๔  ถึงบทบำทของตนเองในกำรสังเกต ประเมิน  การขยายผลงานวิจัยในพื้นที่เสี่ยงอื่นๆ
               และพบว่ำเด็กที่มีระดับสติปัญญำต�่ำกว่ำ                                                          และส่งเสริมเริ่มตั้งแต่กำรกับเด็กสื่อสำร และขับเคลื่อนสู่สังคมและนโยบายใน
               เกณฑ์ปกติ ถึงร้อยละ ๔๐.๖       อย่ำงเข้ำใจ เทคนิคกระบวนกำรสอน และ การเฝ้าระวัง ติดตาม ให้ส่งเสริมเด็กได้
                  รองศาสตราจารย์ นายแพทย์อดิศักดิ์  กำรจัดท�ำสื่อเพื่อพัฒนำเด็กกำรเรียนรู้เด็ก   ทันท่วงทีเมื่อเกิดปัญหา ซึ่งเป็นไปตำม
               ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อ�ำนวยกำรสถำบัน  นอกจำกนี้ คณะผู้วิจัยได้จัดท�ำคู่มือ เป้ำหมำยหลักของ สถำบันแห่งชำติเพื่อ
               แห่งชำติเพื่อกำรพัฒนำเด็กและครอบครัว  พร้อมสื่อการจัดกิจกรรมส่งเสริมทักษะ กำรพัฒนำเด็กและครอบครัว มหำวิทยำลัย
               มหำวิทยำลัยมหิดล กล่ำวต่อไปว่ำ ปัญหา  การรู้เท่าทันสิ่งแวดล้อมแก่เด็ก เพื่อให้ครู มหิดล ที่จะเป็นทั้งคลังและขับเคลื่อนด้ำน
               LD เกิดจากสารหนูส่วนหนึ่ง แต่ยังมี น�ำไปส่งเสริมให้ควำมรู้แก่เด็กในกำรป้องกัน วิชำกำร ควำมรู้ ให้น�ำไปสู่กำรพัฒนำเด็ก
               ปัจจัยอื่นๆร่วมด้วย เช่น ปัญหาความ ตนเองจำกสำรพิษ กำรลดควำมเสี่ยงจำก เยำวชน และครอบครัว ซึ่งตรงกับยุทธศำสตร์
               ยากจน  เพราะการยุติการประกอบ กำรได้รับสัมผัสสำรพิษ จำกกำรปนเปื้อน ชำติที่เน้นกำรพัฒนำศักยภำพเด็กไทย
               กิจการเหมืองไป ท�าให้พ่อแม่เด็กขาด ทั้งทำงน�้ำและทำงอำกำศ ตัวอย่างวิธีการ ทุกคนต่อไป” อาจารย์ ดร.นุชนาฏ รักษี
               รายได้ท�าให้ต้องไปท�างานไกลขึ้น                                                                  ป้องกันตนเองจากสารพิษ ๑. ล้างผัก                          กล่ำวทิ้งท้ำย
               เด็กส่วนใหญ่จึงต้องถูกทิ้งให้อยู่กับปู่ย่ำ                 ผลไม้ก่อนรับประทานทุกครั้ง ๒. สวมใส่
               ตำยำยที่ขำดควำมรู้ควำมเข้ำใจเลี้ยงดูเด็ก   หน้ากากอนามัยเมื่อมีฝุ่ นควันสารพิษ                                *ขอขอบคุณภาพจาก NICFD
                                                                                               มหิดลสาร ๒๕๖๒      17
   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22