Page 13 - MU_6June63
P. 13
Research Excellence
ดอกของดอกดินปริศนานั้นมีขนาด ศึกษาก่อนหน้า จึงสอบถามราย พบว่าดอกดินชนิดนี้ขึ้นกระจาย
เล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัด และดอกจะ ละเอียดถึงแหล่งที่พบและประสาน เป็นกลุ่มใกล้บริเวณน�้าตกและ
เปลี่ยนสีเป็นสีคล้ายสนิมเมื่อเหี่ยว ขอลงพื้นที่ส�ารวจในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ล�าธาร ส่วนพื้นที่ป่ามีลักษณะเป็น
เฉา แต่เนื่องด้วยดอกของดอกดิน การลงพื้นที่ส�ารวจภาคสนาม ป่ าเบญจพรรณผลัดใบ ในวันที่
ปริศนาจะเหี่ยวอย่างรวดเร็วและ นั้นเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างมาก ๒ ของการส�ารวจทีมงานเตรียม
จ�านวนตัวอย่างดอกที่ได้มานั้นไม่ ส�าหรับพืชกลุ่มนี้ เพราะถึงแม้จะ อุปกรณ์ชุดใหญ่ส�าหรับเก็บบันทึก
เพียงพอ ท�าให้ไม่สามารถศึกษา ทราบข้อมูลเบื้องต้นจากปีก่อน บรรยากาศการบานของดอก โดย
และถ่ายภาพโครงสร้างดอกอย่าง หน้าแล้วว่าดอกดินปริศนาชนิด เริ่มออกเดินทางตั้งแต่ ๐๕.๐๐ น.
ละเอียด ในส่วนของใบถูกน�ามา นี้จะออกดอกในช่วงปลายเดือน จากที่พัก เดินเท้าขึ้นเขาเข้าป่ า
ไปสกัด DNA เก็บไว้ส�าหรับศึกษา พฤษภาคม แต่ก็ไม่สามารถระบุ ข้ามล�าธารจนถึงแหล่งที่อยู่ของ
ความสัมพันธ์ระหว่างชนิดของ วันที่ได้อย่างแน่ชัด เนื่องจากการ ดอกดินปริศนา และสามารถเก็บ
ดอกดินสกุลเปราะในอนาคต และ ออกดอกของดอกดินสกุลเปราะ บันทึกภาพนิ่งและวิดีโอการบาน
ต้องรอปีถัดมาเพื่อขอตัวอย่าง ขึ้นอยู่กับปริมาณฝนและความชื้น ของดอกดินชนิดนี้ได้ทันเวลาพอดี
ดอกดินปริศนาเพิ่มเติม ปี พ.ศ. ในอากาศและดินในแต่ละพื้นที่ ซึ่ง ในช่วง ๐๖.๐๐ – ๐๗.๐๐ น. โดย
๒๕๖๐ หลังจากได้รับตัวอย่างพืช ถ้าเลือกเดินทางผิดช่วงวันเวลาถึง ดอกดินชนิดนี้จะเหี่ยวทันทีภายใน
เป็นปีที่สองได้ศึกษาโครงสร้างดอก แม้จะถูกสถานที่ เราก็จะคลาดกับ เวลาเพียง ๑ ชั่วโมง ตั้งแต่ ๐๗.๐๐
อย่างละเอียดมากขึ้นจนสามารถ ดอกของพืชที่ต้องการศึกษา จาก น. หลังจากดอกบานสมบูรณ์เต็ม
เขียนค�าบรรยายลักษณะได้ครบ “ดอกดิน” ก็จะเหลือเพียง “ดิน” ที่ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวของ
ถ้วนสมบูรณ์ รวมถึงได้น�าเอาส่วน นอกจากนี้ดอกของดอกดินปริศนา ดอกดินชนิดนี้ จนน�าไปสู่การตั้ง
ของปลายรากและดอกอ่อนมา จะเหี่ยวอย่างรวดเร็วท�าให้เพิ่ม ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า “Kaempferia
ศึกษาโครโมโซม และน�าใบมา ระดับความยากต่อการส�ารวจเพิ่ม aurora Noppornch. & Jenjitt.”
ศึกษาขนาดจีโนม (Genome size) เข้าไปอีก ประกอบกับพื้นที่ป่าที่พบ และให้ชื่อไทยว่า “ดอกดินอรุณรุ่ง”
พบว่ามีความต่างอย่างชัดเจนเมื่อ ดอกดินชนิดนี้อยู่ใกล้เขตชายแดน หรือ “ดอกดินสีสนิม”
เทียบกับดอกดินชนิดที่มีลักษณะ ประเทศพม่า จึงต้องวางแผนการ ส่วน เปราะผาสุก (Kaempferia
ทางสัณฐานวิทยาใกล้เคียงกัน ส�ารวจอย่างรอบคอบ ซึ่งทีมงาน caespitosa) ซึ่งเป็นดอกดินสกุล
หลังจากนั้น ในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ วางแผนการส�ารวจ ๒ วัน โดยใน เปราะ อีกชนิดหนึ่งที่ได้รับการ
ได้รับการติดต่อจาก คุณธันย์ชนก วันแรกทีมส�ารวจเข้าไปถึงแหล่ง บรรยายลักษณะทางสัณฐานวิทยา
สมหนู หรือ “คุณกวาง” ทีมงาน ที่อยู่ของดอกดินชนิดนี้เป็นเวลา และระบุเป็นพืชชนิดใหม่ของโลก
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนาง ประมาณ ๑๓.๐๐ น. ปรากฏ ชนิดล่าสุด โดยได้รับการติดต่อให้
เจ้าสิริกิติ์ อ�าเภอแม่ริม จังหวัด ว่าพบแต่ดอกเหี่ยวซึ่งมีสีคล้าย ช่วยระบุชนิดจากคุณกวาง ซึ่ง ณ
เชียงใหม่ ซึ่งเดิมท�างานร่วมกันอยู่ สนิม ไม่พบดอกบานสมบูรณ์แต่ ขณะนั้น คุณวรนุช ละอองศรี หรือ
แล้ว ส่งภาพดอกดินชนิดหนึ่งมาให้ อย่างใด ซึ่งตรงตามข้อมูลที่ทราบ “คุณฝน” นักวิจัยประจ�าสวนพฤกษ
ตรวจสอบและช่วยระบุชนิด ปรากฏ ก่อนหน้า จึงตัดสินใจที่จะส�ารวจ ศาสตร์ฯ เป็นหัวหน้าทีมลงพื้นที่
ว่าภาพดอกดินที่เห็นตรงกับดอกดิน จ�านวนประชากรและลักษณะ ส�ารวจและเก็บตัวอย่างพรรณไม้
ปริศนาจากอ�าเภอแม่สอด ที่เคย พื้นที่ที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว จากแหล่งที่อยู่ของเปราะผาสุก
อ่านต่อหน้า ๑๖
มหิดลสาร ๒๕๖๓ 13