Page 7 - MU_10Oct62
P. 7
เรื่องจากปก
ฐิติรัตน์ เดชพรหม
รองศาสตราจารย์ ดร.ปกรณ์ สิงห์สุริยา
คว้ารางวัลมหาวิทยาลัยมหิดล สาขาความเป็นครู ประจ�าปีการศึกษา ๒๕๖๑
ผู้ได้รับรำงวัลมหำวิทยำลัยมหิดล หรือเรียกว่า Philosophy For Children
ในปีกำรศึกษำ ๒๕๖๑ นี้มีทั้งสิ้น ๖ ท่ำน (P4C) เป้าหมายไม่ได้เพื่อให้เด็กกลายเป็น
โดยได้เข้ำรับพระรำชทำนรำงวัลจำก สมเด็จ นักปรัชญา แต่ให้เด็กมีความคิดเชิง
พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระ วิพากษ์ โดยใช้เทคนิคกำรถกเถียง เทคนิค
เทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กำรวิเครำะห์ทำงปรัชญำไปให้เด็กใช้กับ
ในพิธีพระรำชทำนปริญญำบัตร เมื่อวันที่ ๒ ประเด็นทั่วๆ ไป”
ตุลำคม ๒๕๖๒ ที่ผ่ำนมำ ณ หอประชุมมหิดล “ในส่วนของอุปสรรคในด้ำนกำรศึกษำ
สิทธำคำร มหำวิทยำลัยมหิดล ศำลำยำ ทำงปรัชญำ พบว่ำคนยังแยกไม่ออกระหว่ำง
เพื่อเผยแพร่ประวัติและผลงำนให้ทรำบ “ปรัชญา” กับ “ศาสนา” คิดว่ำปรัชญำเป็น
โดยทั่วกัน มหิดลสำรจะทยอยน�ำเสนอให้ ศำสนำก็มี บำงคนสอนปรัชญำ แต่ไปเอำ
ผู้อ่ำนได้ติดตำม โดยฉบับนี้ขอประเดิมที่ ศำสนำมำสอน ในขณะที่บำงคนเอำปรัชญำ
รองศาสตราจารย์ ดร.ปกรณ์ สิงห์สุริยา มำสอน แต่สอนแบบศำสนำ คือ สอนเนื้อหำ
รางวัลมหาวิทยาลัยมหิดล สาขาความ ให้ท่องจ�ำ แต่ละเลยเรื่องวิธีกำร ซึ่งการเรียน
เป็นครู ค่ะ ปรัชญาต้องรู้วิธีการด้วย ถ้าไม่รู้วิธีการ
รองศาสตราจารย์ ดร.ปกรณ์ จะเรียกว่ารู้ปรัชญาไม่ได้ เหล่ำนี้เป็นเหตุ
สิงห์สุริยา หัวหน้ำภำควิชำมนุษยศำสตร์ ที่ท�ำให้ปรัชญำของเรำไม่ค่อยเข้มแข็ง”
ซึ่งปัจจุบันด�ำรงต�ำแหน่งประธำนคณะ ถูก ผิด ดี เลว ซึ่งหมายความว่าจริยศาสตร์ “มีคนถำมว่ำท�ำไม ประเทศเรำเป็น
กรรมกำร ต้องเข้ามามีบทบาทด้วย” เมืองพุทธ แต่วิชำกำรด้ำนพุทธไม่ก้ำวหน้ำ
บริ ห ำ ร “จริยธรรมก็เหมือนกับอากาศ เท่ำที่ควร เพรำะเรำไม่ได้ศึกษำศำสนำอย่ำง
หลั กสู ตร เรามองไม่เห็น แต่เป็ นสิ่งที่จ�าเป็ น เป็นวิชำกำร จริงๆ แล้วกำรรู้แบบ “ศาสนิก”
ปรัชญำดุษฎี เป็นเงื่อนไขที่ท�ำให้เรำอยู่ได้ ทุ่มเทท�ำสิ่งอื่น ซึ่งมุ่งให้เป็นชำวพุทธที่ดี แต่ไม่ได้รู้แบบ
บัณฑิต สำขำ ได้อย่ำงเช่น กำรวิจัย ถ้ำขำดเงื่อนไขของ “นักวิชาการ” ซึ่งกำรเรียนรู้โดยขำดพื้นฐำน
วิชำศำสนำ จริยธรรมวิชำกำร คนท�ำวิจัยออกมำแล้วถูก จำกสำขำวิชำต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้อง อำทิ ปรัชญำ
กั บก ำ ร ขโมยผลงำน คนก็จะขำดก�ำลังใจที่จะผลิต สังคมวิทยำ และมนุษยวิทยำ ไปจัดกำรกับ
พัฒนำ คณะ งำนวิจัย จริยธรรมเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ เวลำ ประเด็นทำงศำสนำที่มีควำมซับซ้อน ท�ำให้
สังคมศำสตร์ เสื่อมลงไป คนไม่ค่อยตระหนัก เพรำะมนุษย์ วิชำกำรด้ำนกำรศึกษำศำสนำไม่ก้ำวหน้ำ”
และมนุษยศำสตร์ กรรมกำรจริยธรรมกำร มีควำมต้ำนทำนกับควำมเสื่อมจริยธรรมสูง
วิจัยในคน สำขำสังคมศำสตร์ มหำวิทยำลัย หมำยควำมว่ำเรำสำมำรถทนกับควำมเสื่อม
มหิดล และกรรมกำรสมำคมปรัชญำและ จริยธรรมไปได้เรื่อยๆ จนบำงทีไปถึงจุดที่
ศำสนำแห่งประเทศไทย กล่ำวว่ำ “การ เหมือนกับ “ป่าเถื่อน” แล้วเรำก็ยังไม่รู้สึกตัว
ศึกษาศาสนามีความส�าคัญ ในปัจจุบันนี้ ควำมเสื่อมทำงจริยธรรมไม่ได้เป็นเพียงเรื่อง
ทั่วโลกเห็นความส�าคัญของความรู้ความ ของคนๆ เดียว เคยมีกำรทดลองโดยเอำเด็กๆ
เข้าใจเกี่ยวกับศาสนา ทั้งในด้านบวก มำอยู่ในห้อง ลองให้มีคนโกงคนหนึ่ง แล้วคน
และลบ แม้แต่สหประชาชาติ ก็ได้มีการ อื่นก็จะเริ่มโกงตำม เหมือนเป็นโรคติดต่อ”
ดึงพลังของศาสนามาใช้เพื่อช่วยผลักดัน “ในสังคมไทยเอง เวลำเรำพูดถึงสิทธิ “ยิ่งไปกว่ำนั้นในกำรจัดกำรศึกษำพบว่ำ
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs มนุษยชน หรือเสรีนิยมประชำธิปไตย วิชำมนุษยศำสตร์ ซึ่งที่จริงอยู่ฝั่งศิลป์ สังคมศำสตร์
นอกจำกนี้ กำรเรียนศำสนำยังเป็นทำงลัด ถ้ำคุยกันโดยไม่มีพื้นฐำนทำงปรัชญำ ก็อำจ อยู่ฝั่งวิทย์ แต่ในประเทศไทยมักเอำสองศำสตร์
ของกำรเข้ำใจวัฒนธรรมที่แตกต่ำง เป็นพื้น จะหลงทำงได้ เช่น ค�ำว่ำ “ศักดิ์ศรีความเป็น นี้มำอยู่ด้วยกัน จึงท�ำให้เกิดปัญหำ โดยตอน
ฐำนให้แก่ควำมเข้ำใจว่ำคนอื่นมองโลกต่ำง มนุษย์” บำงคนบอกว่ำ กำรไปวิจำรณ์ผู้อื่น เรียนสังคมศำสตร์ก็ไม่รู้ว่ำตัวเองต้องคิดแบบ
จำกเรำอย่ำงไร และควำมเข้ำใจว่ำเรำจะอยู่ เป็นกำร “ละเมิด” ศักดิ์ศรีควำมเป็นมนุษย์ วิทยำศำสตร์ได้ หรือว่ำพอเรียนมนุษยศำสตร์
กับคนที่แตกต่ำงอย่ำงไร โดยเฉพำะอย่ำง แต่จริงๆ ถ้ำเกิดสมมุติว่ำมีคนท�ำไม่ดี แล้วเรำ ก็ไปเอำสังคมศำสตร์มำปนซึ่งเป็นคนละเรื่อง
ยิ่งในโลกที่เปลี่ยนแปลง ให้ควำมส�ำคัญกับ ไม่บอกเขำ นั่นคือ กำร “ละเมิด” ศักดิ์ศรี เพรำะฉะนั้นจุดแรกที่จะต้องพยำยำมท�ำใน
ควำมหลำกทำงวัฒนธรรม” ควำมเป็นมนุษย์ ในขณะที่ ถ้ำคนอื่นท�ำ กำรสอนนักศึกษำก็คือ ให้เห็นเหมือนกับแผน
“สมัยก่อนเรำเชื่อว่ำจริยธรรมจะมีควำม ไม่ดี แล้วเรำบอกให้เขำรู้ว่ำท�ำไม่ดี อันนี้ ที่ควำมรู้ที่สำมำรถแบ่งแยกสำขำวิชำได้ และ
ส�ำคัญน้อยลง เมื่อเทคโนโลยีพัฒนำมำกขึ้น ต่ำงหำกจึงเป็นกำร “เคารพ” ศักดิ์ศรีควำม จุดที่สองที่ควรให้ควำมส�ำคัญก็คือ ให้รู้จัก
เพรำะเข้ำใจว่ำผู้คนมีควำมสะดวกสบำย เป็นมนุษย์ของเขำ” สำขำวิชำของตนเองที่ศึกษำ และอีกจุดก็คือให้
มำกขึ้น มีกินมีใช้มำกขึ้น จึงไม่ต้องทะเลำะกัน “กำรศึกษำวิชำปรัชญำ นอกจำกควำม “เข็มทิศ” หรือ “เครื่องมือ” ที่จะให้นักศึกษำ
แต่จริงๆ พบว่ำพอเทคโนโลยีมำกขึ้น ก็ต้องมี ส�ำคัญของกำรศึกษำด้ำนจริยศำสตร์แล้ว สำมำรถน�ำไปคิด หรือวิเครำะห์ศึกษำต่อ
กำรตัดสินใจมำกขึ้น ที่ใดที่มีการตัดสินใจ กระแสของโลกปัจจุบันยังได้มีการน�า เองได้” รองศาสตราจารย์ ดร.ปกรณ์
มักจะมีมิติของการตัดสินใจว่าอะไร เอาวิธีการทางปรัชญาไปสอนกับเด็ก สิงห์สุริยา กล่ำว
มหิดลสาร ๒๕๖๒ 7