Page 33 - MU_2Feb66
P. 33

February 2023                               มหิดลสาร ๒๕๖๖                                              33




                            ปิวดข็าตอนัเดินัเกิดจากอะไรได้บ่้าง



                                                                                   เริ่ยบเริ่ยงโดย กภ์. เดชำวิน หิลายศิริิเริืองไริ











            อาการิป็วดขาตำอนเดิน หิลาย ๆ คนตำ้องเคยม่ป็ริะสบการิณี์
        ป็วดขามาแล้ว  ในบทัความน่�เริาจำะมาทัำาความริู้จำักกับสาเหิตำุทั่�
        พบได้บ�อยส�งผลใหิ้เกิดอาการิป็วดขา แตำ�จำะเน้นไป็ในกลุ�มผู้ทั่�ม่
        อายุตำั�งแตำ� ๔๐ ป็ีขึ�นไป็ ในชำ่วิตำป็ริะจำำาวัน การิเดินถือว�าเป็็นกิจำกริริม
        ทั่�สำาคัญ ถ้าเริาเดินแล้วเกิดอาการิป็วดขาก็สามาริถส�งผลใหิ้เกิด
        ข้อจำำากัดในการิทัำากิจำวัตำริป็ริะจำำาวันตำ�าง ๆ ได้  หิากเริาพิจำาริณีาถึง
                                                                              กภิ. เดชัวิน หลี่ายุศิรื่ิเรื่่องไรื่
        องค์ป็ริะกอบของริ�างกายทั่�สามาริถส�งผลใหิ้เกิดอาการิป็วดขา          คณีะกายภ์าพบำาบัด มหิาวิทัยาลัยมหิิดล
        จำะป็ริะกอบด้วยสาเหิตำุจำากหิลอดเลือดแดง เส้นป็ริะสาทั กล้ามเนื�อ
        น�องและข้อเข�า  ทั่�ส�งผลใหิ้เกิดอาการิป็วดได้  ในบทัความน่�
        เริาจำะชำวนใหิ้ทัุกคนมาลองตำริวจำริ�างกายเพื�อพิจำาริณีาแยกสาเหิตำุ      ตำ�อด้วยป็ัญหิาข้อเข�าเสื�อม โดยผู้ป็่วยจำะม่อาการิป็วดชำัดเจำน
        ทั่�ส�งผลใหิ้เกิดอาการิป็วดขากัน                       ทั่�บริิเวณีเข�าไม�ว�าจำะเป็็นด้านหิน้าหิริือหิลังเข�า  บางริายอาจำม่
                องค์ป็ริะกอบแริกทั่�จำะชำวนทัุกคนมาตำริวจำริ�างกายกัน  คือ   อาการิป็วดมากทั่�ข้อพับและน�อง ป็วดตำึงขัดชำ�วงเชำ้าหิลังตำื�นนอน
        หิลอดเลือด โดยเฉีพาะหิลอดเลือดแดงทั่�ถือว�าเป็็นองค์ป็ริะกอบ  ม่การิจำำากัดการิเคลื�อนไหิวในทั�างอและเหิย่ยดเข�า ม่อาการิป็วด
        ทั่�สำาคัญของริ�างกาย  เพริาะว�าโคริงสริ้างดังกล�าวทัำาหิน้าทั่�  ขณีะเป็ล่�ยนทั�าเมื�ออยู�ในทั�าเดิมเป็็นเวลานาน การิยืนหิริือเดินนาน ๆ
        ขนส�งออกซิเจำน พลังงานและสาริอาหิาริทั่�ส�งไป็ตำามอวัยวะตำ�าง ๆ   ก็ส�งผลทัำาใหิ้เกิดอาการิป็วดได้ ข้อเข�าจำะม่ขนาดใหิญ�ขึ�น ในริาย
        ถ้าเกิดความผิดป็กตำิจำะส�งผลใหิ้เกิดภ์าวะอักเสบตำ�ออวัยวะใกล้  ทั่�เป็็นมานาน ม่เส่ยงกริอบแกริ็บขณีะขยับข้อเข�า อาการิจำะด่ขึ�น
        เค่ยงได้  โดยอาการิของโริคหิลอดเลือดแดงผิดป็กตำินั�น  ผู้ป็่วย  เมื�อได้นั�งพักหิริืออยู�ในทั�าทั่�ไม�ม่การิลงนำาหินักทั่�ข้อเข�า  (3)
        จำะม่อาการิป็วดบริิเวณีน�องเมื�อทัำากิจำกริริมโดยเฉีพาะการิเดิน   ส�วนป็ัญหิาสุดทั้าย  คือ  กล้ามเนื�ออักเสบเริื�อริัง  โดยป็กตำิ
        เนื�องจำากเลือดทั่�ส�งไป็เล่�ยงกล้ามเนื�อน�องไม�เพ่ยงพอแตำ�อาการิจำะ  โริคกล้ามเนื�ออักเสบเริื�อริังสามาริถเกิดขึ�นได้กับกล้ามเนื�อ
        ด่ขึ�นเมื�อหิยุดพัก นอกจำากนั�น ยังม่ความผิดป็กตำิทั่�ส่ของผิวหินัง  ทัุกส�วนของริ�างกาย  เกิดจำากการิบาดเจำ็บซำา  ๆ  อย�างค�อยเป็็น
        อาจำม่ส่ซ่ดหิริือคลำา ถ้าคลำาบริิเวณีน�องจำะม่ความริู้สึกเย็น อาจำม่  ค�อยไป็ จำากกิจำวัตำริป็ริะจำำาวันทั่�ทัำา แตำ�ในบทัความน่�เริาจำะเน้นไป็ทั่�
        กล้ามเนื�อฝึ่อล่บและขนริ�วงบริิเวณีดังกล�าว (1)        กล้ามเนื�อน�อง (gastrocnemius muscle) ซึ�งม่สาเหิตำุจำากการิยืน
            ตำามมาด้วยป็ัญหิาเส้นป็ริะสาทั ในบทัความน่�เริาจำะกล�าวถึง  หิริือเดินนาน ๆ หิริือการิออกกำาลังกายทั่�มากเกินไป็ อาการิกล้ามเนื�อ
        ภ์าวะกริะดูกสันหิลังส�วนล�างเสื�อมกดทัับเส้นป็ริะสาทัทั่�ส�งผลทัำาใหิ้  อักเสบเริื�อริังทั่�น�อง ผู้ป็่วยจำะม่อาการิป็วดเมื�อใชำ้งานไม�ว�าจำะเป็็น
        เกิดอาการิป็วดริ้าวลงขาได้  โดยโคริงสริ้างทั่�สามาริถกดทัับ  การิเดินหิริือการิยืนเขย�งป็ลายเทั้า ม่อาการิป็วดตำึงทั่�กล้ามเนื�อน�อง
        เส้นป็ริะสาทั ป็ริะกอบด้วย หิมอนริองกริะดูกสันหิลังทั่�ยื�นไป็กด  หิลังตำื�นนอน  ม่จำุดกดเจำ็บทั่�ตำัวกล้ามเนื�อและม่อาการิริ้าวลงมา
        เส้นป็ริะสาทั  อาการิบวมของข้อตำ�อกริะดูกสันหิลัง  เอ็นป็ริะกบ  ทั่�ฝึ่าเทั้า อาการิป็วดจำะด่ขึ�นเมื�อได้พัก หิริือยืดกล้ามเนื�อ (4)
        ข้อกริะดูกสันหิลังหินาตำัวขึ�น  หิริือภ์าวะกริะดูกงอกภ์ายใน          ทัั�งหิมดทั่�กล�าวเป็็นสาเหิตำุส�วนใหิญ�ทั่�สามาริถทัำาใหิ้เกิดอาการิ
        โพริงกริะดูกสันหิลัง โดยอาการิป็วดขาจำะถูกกริะตำุ้นได้จำากการิยืน  ป็วดขาได้ ใคริทั่�กำาลังป็ริะสบป็ัญหิาป็วดขาขณีะเดินลองพิจำาริณีา
        หิริือเดินนาน ๆ หิริือการิแอ�นหิลัง อาการิจำะด่ขึ�นเมื�อนั�งพัก ก้มตำัว   อาการิแยกโริคกันดูนะคริับ โดยใคริทั่�ม่แนวโน้มป็วดขาจำากสาเหิตำุ
        หิริือนอนริาบ อาการิป็วดริ้าวลงขาจำะไม�สัมพันธ์กับส่ผิวความริู้สึก  ของหิลอดเลือดแนะนำาใหิ้ริ่บไป็พบแพทัย์ เพื�อทัำาการิตำริวจำป็ริะเมิน
        เย็นริ้อนทั่�ผิวหินัง แตำ�จำะสัมพันธ์กับชำ�วงเวลาของวัน โดยในชำ�วงเชำ้า  และริักษาเพริาะถือเป็็นอาการิทั่�ริุนแริงกว�าสาเหิตำุอื�น ๆ ส�วนสาเหิตำุ
        ผู้ป็่วยจำะริู้สึกสบายขาไม�ป็วด ยืนเดินได้ด่ แตำ�จำะเริิ�มม่อาการิและ  ทั่�เหิลือสามาริถมาพบนักกายภ์าพบำาบัดเพื�อทัำาการิตำริวจำป็ริะเมิน
        อาการิจำะมากขึ�นชำ�วงหิลังเทั่�ยงวันไป็แล้วจำากเส้นป็ริะสาทั  และริักษาได้  อย�ามองข้ามอาการิป็วดขาขณีะเดินเพริาะอาจำ
        ถูกกดทัับมากขึ�น  (2)                                  ส�งผลตำ�อคุณีภ์าพชำ่วิตำของเริาและม่ได้หิลายสาเหิตำุ
                                                                                                                      เพ่�อสุขภิาพ



        1. .Walsworth MK, Bie RD, Figoni SF, O’connell JB. Peripheral Artery Disease: What You Need to Know. J Orthop Sports Phys Ther. 2017;12(47):957-964.
        2. Genevay S, Courvoisier DS, Konstantinou K, Kovacs FM, Marty M, Rainville J, et al. Clinical classification criteria for neurogenic claudication
        caused by lumbar spinal stenosis. The N-CLASS criteria. Spine J. 2018;18(6):941-7.
        3. Arya RK, Jain VK, Osteoarthritis of the knee joint: An overview, J. Indian Acad. Clin. Med. 2013;14(2):154-162.
        4. Simons DG, Travell JG, Simons LS. Myofascial pain and dysfunction, The Trigger Point Manual. 2nd Edition. Baltimore: Williams & Wilkins;2001.
   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38