Page 25 - MU_3Mar63
P. 25

ศิษย์สัมพันธ์






                 ความส�าเร็จที่แท้จริงจากศิษย์เก่าผู้ได้รับรางวัลมหิดลทยากร




                  ในมหิดลสารฉบับนี้ หน่วยศิษย์สัมพันธ์ กองกิจการนักศึกษา และ  รองศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกรหญิงนพมาศ สุนทรเจริญนนท์
               สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอส่งต่อ  ศิษย์เก่ารุ่น ๘๒ คณะเภสัชศาสตร์ “ส�าหรับความส�าเร็จของชีวิต เริ่ม
               ข้อความดี ๆ จากศิษย์เก่าผู้ได้รับรางวัล “มหิดลทยากร” เนื่องใน  ตั้งแต่ตอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ตั้งแต่ตอนที่ยังเรียนหนังสืออยู่ ก็มี
               โอกาสครบรอบ “๕๑ ปีวันพระราชทานนาม ๑๓๒ ปี มหาวิทยาลัย  ความรู้สึกว่าเราเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล เราก็ไม่ได้เรียนอย่าง
               มหิดล” เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๓ เพื่อเป็นข้อคิดที่ดีในการสร้าง  เดียว เราจะมีการช่วยเหลือสังคมมาตลอด ไม่ว่าเรื่องของการออกค่าย
               ความส�าเร็จแก่ตนเองและสร้างความสุขแก่ผู้อื่นต่อไป  การออกชุมชน จนกระทั่งวันหนึ่งเรามาเป็นอาจารย์คณะเภสัชศาสตร์
                                                              ก็มีโอกาสได้ท�างานวิจัยและบริการวิชาการให้กับภาคอุตสาหกรรม
               “ผมก็ต้องเป็นนักเรียนใหม่อยู่ตลอด ทุกวันต้องตามโลกให้ทัน  และประชาชนทั่วไป ในเรื่องของความรู้ที่ตนเองสนใจ ซึ่งก็คือเรื่อง
                              และตั้งใจท�างานด้วย”            สมุนไพร และได้ท�ามาตลอดมากกว่า ๓๐ ปี เราก็น�าความรู้ที่ได้จาก
                                                              งานวิจัยเหล่านี้ถ่ายทอดลงไปยังบุคลากรทางการแพทย์และประชาชน
                                                              ทั่วไปให้รู้จริงและเข้าใจจริงเกี่ยวกับเรื่องสมุนไพรด้วย สิ่งที่ส�าคัญก็คือ
                                                              ความตั้งใจและความมุ่งมั่นที่จะท�างานให้ส�าเร็จ แต่สิ่งที่ส�าคัญที่สุด
                                                              คือจิตสาธารณะที่จะช่วยเหลือสังคมไม่ว่าเราจะอยู่ในต�าแหน่งอะไร”

                                                               “ที่ส�าคัญคือเราต้องมีการเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถึงจะช่วยให้
                                                                  งานออกมามีคุณภาพและประสบความส�าเร็จได้”




                  ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์
               ศิษย์เก่ารุ่น ๗๙ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล “หลักใน
               การด�าเนินชีวิตของผมก็คือ ความซื่อสัตย์ ขยัน กตัญญูและอีกสิ่ง
               หนึ่งที่ส�าคัญมากแต่อาจจะท�ายากหน่อยแต่ก็ต้องพยายามท�าให้
               มากที่สุดเท่าที่จะมากได้นั่นก็คือ ความยุติธรรม โดยส่วนตัวแล้วเมื่อ
               ครั้งที่ได้ถวายตัวเพื่อเข้ารับต�าแหน่งคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราช
               พยาบาล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงตรัสกับตนสั้นๆ
               สองประโยคว่า ให้เป็นนักเรียนใหม่ ตั้งใจท�างาน เพราะฉะนั้นผมก็ต้อง  รองศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ประตาป สิงหศิวานนท์
               เป็นนักเรียนใหม่อยู่ตลอด ทุกวันต้องตามโลกให้ทันและตั้งใจท�างาน  ศิษย์เก่ารุ่น ๙๓ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน “หลังจากที่ผมจบการ
               ด้วย ต่อมาได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะแพทย์ถวายการรักษา                                                                                                                                     ศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดลแล้ว ประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้จาก
               ถึงตอนนั้นสถานการณ์บ้านเมืองจะไม่ค่อยดี การแพทย์การ  หลักสูตรของที่นี่ สามารถน�าไปใช้เรียนต่อที่ต่างประเทศได้อย่างดี
               สาธารณสุขก็ถูกรบกวนเป็นอย่างมาก พระองค์ก็มีพระราชกระแสมา  มาก จนกระทั่งสามารถจบปริญญาโทและปริญญาเอกในสาขาระบาด
               ว่า ให้อ่อนน้อมถ่อมตน ทุกคนมีดี อย่าไปดูถูกใคร เมื่อน�ามาใช้ในชีวิต  วิทยาได้ ฉะนั้นเมื่อน�าองค์ความรู้ต่างๆ ที่ได้ร�่าเรียนมาไปประยุกต์ใช้
               ประจ�าวัน จึงท�าให้มีไมตรีจิตเกิดขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลากร  ในการท�าวิจัย เราก็จะแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดในประเทศของเราได้
               ก็ดีขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างคนไข้ก็ดีขึ้น ปัญหาต่าง ๆ โดยเฉพาะการ  อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการรักษาโรค ในด้านของการ
               ฟ้องร้องก็เกิดน้อยลง เพราะต่างฝ่ายต่างมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน”  ป้องกันโรค หรือการศึกษาวิจัยในด้านต่างๆ เพื่อน�าไปใช้กับชุมชน
                                                              ผมคิดว่ามหาวิทยาลัยมหิดลเป็นสถาบันที่พวกเราเคารพนับถือเพราะ
                “สิ่งที่ส�าคัญที่สุดคือจิตสาธารณะที่จะช่วยเหลือสังคมไม่ว่าเรา  เราสามารถเอาองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่ได้รับมาไปใช้งานได้จริง สิ่งที่ผมได้
                             จะอยู่ในต�าแหน่งอะไร”            เรียนรู้เด่นชัดคือ เราต้องไม่รอให้โอกาสเข้ามาหาเราเพียงอย่างเดียว
                                                              เราต้องออกไปหาโอกาสเอง โดยมีความมุ่งหวังเพื่อที่จะได้พัฒนา
                                                              องค์ความรู้ของตนและกลับมาพัฒนาสถาบันของเราให้เทียบเท่าต่าง
                                                              ประเทศ และที่ส�าคัญคือ เราต้องมีการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เช่น ตอน
                                                              ที่เราเป็นครู เราก็ต้องมองกลับไปว่าตอนเราเป็นนักเรียนเราอยากให้
                                                              ครูของเราท�าอะไรให้เรา ตอนเป็นผู้บริหาร เราก็ต้องคิดไปว่าผู้ใต้บังคับ
                                                              บัญชาของเราต้องการผู้บริหารแบบไหน ถึงจะช่วยให้งานออกมามี
                                                              คุณภาพและประสบความส�าเร็จได้”









                                                                                               มหิดลสาร ๒๕๖๓      25
   20   21   22   23   24   25   26   27   28