รวมเหตุผลง่าย ๆ ว่าทำไมเด็กต้องใช้ Car Seat

Published: 19 October 2022

เมื่อเด็กเดินทางด้วยรถยนต์ ทำไมต้องใช้ Car Seat ด้วยนะ ?

มาทำความรู้จัก ที่นั่งนิรภัย หรือ Car Seat ไปกับ รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้อยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายเพื่อปกป้องสิทธิเด็กในไทย และการสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของความปลอดภัยในเด็ก

‘ที่นั่งนิรภัย’ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า คาร์ซีท (Car Seat) เป็นอุปกรณ์เสริมของที่นั่งหรือเบาะสำหรับเด็กในรถยนต์ ทำหน้าที่ยึดเหนี่ยวร่างกายของเด็กไว้เพื่อป้องกันการเกิดความรุนแรงหรืออันตรายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ สามารถลดโอกาสเสียชีวิตของเด็กจากการเดินทางด้วยรถยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ

ตั้งแต่การประกาศ พ.ร.บ. จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 ในช่วงที่ผ่านมา Car Seat ก็ได้ถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง โดยหลายคนยังมีข้อสงสัยถึงความสำคัญของการใช้ Car Seat กันอยู่บ้าง

Q: Car seat คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร

A: Car seat คือ ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ทำหน้าที่เป็นระบบยึดเหนี่ยวร่างกายของเด็กไว้กับรถยนต์ ระบบยึดเหนี่ยว คือ การทําให้ร่างกายหยุดอยู่กับที่ ไม่เคลื่อนตัวตามความเร็วของรถยนต์เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ระบบยึดเหนี่ยวที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี คือ เข็มขัดนิรภัย โดยผู้ที่ส่วนสูงเกิน 135 เซนติเมตร หรืออายุประมาณ 9 ปีขึ้นไป จะสามารถใช้เข็มขัดนิรภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากอายุต่ำกว่า 9 ปี หรือส่วนสูงต่ำกว่า 135 เซนติเมตร การคาดเข็มขัดนิรภัยแบบปกติจะก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าเนื่องจากการคาดเข็มขัดที่ไม่พอดีกับร่างกาย

แต่…ผู้ขายรถยนต์ไม่เคยบอกผู้ซื้อว่ารถยนต์ที่มีแต่เข็มขัดนิรภัยนั้น เป็นยานพาหนะที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 9 ปี แต่เมื่อเปิดดูสมุดคู่มือของรถทุกยี่ห้อจะพบคำแนะนำระบุไว้ว่า ให้ใช้ที่นั่งนิรภัยสําหรับเด็กอายุต่ำกว่า 9 ปี หรือมีส่วนสูงน้อยกว่า 135 เซนติเมตร

เด็กทารกเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสุดเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เพราะเด็กทารกจะมีลักษณะเหมือนลูกแบดมินตัน หัวใหญ่ ตัวสั้น เวลาเราโยนลูกแบดมินตันขึ้นไป ด้านหัวจะตกลงเสมอ เพราะว่ามีน้ำหนักที่มากกว่า เมื่อเกิดอุบัติเหตุ เด็กจะเคลื่อนที่ไปด้วยความเร็วที่รถยนต์ใช้ขณะนั้น และไม่ว่าจะลอยไปทิศทางใด สุดท้ายส่วนหัวจะเป็นส่วนนําแล้วพุ่งไปกระแทกเข้ากับกระจกหรือโครงสร้างรถยนต์ส่วนต่าง ๆ  ประกอบกับกระดูกกับคอที่สั้นและกล้ามเนื้อต้นคอที่อ่อนแอทำให้เกิดภาวะกระดูกต้นคอในระดับต้น ๆ หัก และกดทับไขสันหลังทำให้หยุดหายใจ

จึงเป็นสาเหตุที่สําคัญว่าทําไมต้องยึดเหนี่ยวตัวเด็กเหมือนผู้ใหญ่ แล้วก็ต้องยึดเหนี่ยวให้ถูกวิธีด้วย

Q: Car Seat กับความปลอดภัยในเด็ก

A: ถ้าเราถามว่า นวัตกรรมใดในรถยนต์ที่จะช่วยลดการตายของเด็กได้ เมื่อเกิดอุบัติเหตุในรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นเบรก ABS หรือจะเป็นถุงลมนิรภัย (Airbag) ฯลฯ ต้องยอมรับว่าสิ่งที่ช่วยลดอัตราการตายได้ดีที่สุดก็คือระบบยึดเหนี่ยวที่เหมาะสมนี่แหละ สําคัญที่สุดเลยทั้งเด็กและผู้ใหญ่

Q: พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 กับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

A: พระราชบัญญัติฉบับนี้มีความสําคัญมาก นอกจากจะควบคุมการกระทําผิดแล้ว ยังดูแลเรื่องความปลอดภัยส่วนบุคคลได้ มีจุดเน้นหลายจุดที่ของเดิมไม่สมบูรณ์ แล้วมีการปรับให้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกับเด็ก เช่น เรื่องของเข็มขัดนิรภัย

ระบบยึดเหนี่ยวร่างกายในรถทุกชนิดเป็นกลไกสําคัญที่จะช่วยลดการตายลงได้ เนื่องจากเวลารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว ทุกคนที่อยู่ในรถก็จะเคลื่อนด้วยความเร็วของรถ เมื่อรถเกิดหยุดและเปลี่ยนความเร็วจาก 100 เป็น 0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คนไม่ได้หยุดตามรถ จะทำให้ลอยออกไปได้ ต่อให้ออกแบบโครงสร้างรถยนต์ดีขนาดไหนก็ตาม แต่ถ้าคนยังลอยตามความเร็วนั้น ความแข็งแรงของรถยนต์จะไม่ช่วยปกป้องอะไรเลย

ดังนั้นระบบยึดเหนี่ยวจึงสําคัญมาก กฎหมายเก่าให้มีเข็มขัดนิรภัยเฉพาะผู้นั่งข้างคนขับและคนขับ ซึ่งสามารถยึดเหนี่ยวได้เฉพาะผู้ใหญ่หรือเด็กที่อายุเกิน 9 ปีขึ้นไปเท่านั้น

พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 ได้มีการแก้ไขให้มีเข็มขัดนิรภัยครอบคลุมทุกที่นั่งในรถ และในเด็กที่อายุต่ำกว่า 9 ปี หรือมีส่วนสูงต่ำกว่า 135 เซนติเมตร จะต้องมีอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันอันตรายเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้ นั่นก็คือ ที่นั่งนิรภัย (Car Seat)

กฎหมายที่ออกมาทําให้หน่วยงานภาครัฐต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับความปลอดภัย สร้างความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องการปกป้องคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคล และต้องไปทํางานเพื่อให้กฎหมายนี้คุ้มครองประชาชนได้

ติดตามอัปเดตความรู้ใหม่ ๆ ได้ที่ MUSEF Conference


ขอขอบคุณ

  • รศ.นพ. อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์
    ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล

Page View: 1,939 times

Related Posts

9 June 2025

มหิดลจัดงาน “Together for Mahidol Campus Sustainability” มุ่งสู่ Net Zero Emission เดินหน้านำสู่ความยั่งยืน

มุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูน เดินหน้านำสู่ความยั่งยืน
6 June 2025

ฉลองครบรอบ 60 ปี คณะกายภาพบำบัด ม.มหิดล เพื่อสุขภาวะดีอย่างยั่งยืน

มุ่งสร้างสรรค์สังคมสู่ความยั่งยืนด้านสุขภาวะด้วยกายภาพบำบัด
21 May 2025

ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ Mahidol Change Agent #1

ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ Mahidol Change Agent จำนวน 57 คน

Featured Article

9 June 2025

มหิดลจัดงาน “Together for Mahidol Campus Sustainability” มุ่งสู่ Net Zero Emission เดินหน้านำสู่ความยั่งยืน

มุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูน เดินหน้านำสู่ความยั่งยืน
6 June 2025

ฉลองครบรอบ 60 ปี คณะกายภาพบำบัด ม.มหิดล เพื่อสุขภาวะดีอย่างยั่งยืน

มุ่งสร้างสรรค์สังคมสู่ความยั่งยืนด้านสุขภาวะด้วยกายภาพบำบัด
26 May 2025

“Policy Forum: ประชาชนอยู่ตรงไหนในสมการสันติภาพ”

นำเสนอหลักฐานทางวิชาการอันนำไปสู่การสร้างความกลมเกลียวและการอยู่ร่วมกันโดยสันติในพื้นที่พหุวัฒนธรรมบน

We use cookies to improve performance and good experience using your website. You can study details at Privacy Policy And you can manage privacy setting at Setting Page

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
Scroll to Top
Scroll to Top