คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยมหิดล รับฟังผลการดำเนินงานของส่วนงาน (University Cuncil Visit : 4) ครั้งที่ 12/2568 ของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยมหิดล รับฟังผลการดำเนินงานของส่วนงาน (University Cuncil Visit : 4) ครั้งที่ 11/2568 ของคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
June 27, 2025
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เข้ารับการการตรวจประเมินคุณภาพการศึกษาระดับส่วนงานตามเกณฑ์ EdPEx ประจำปี 2568 ในรูปแบบ MUEdPEx-A1 (การตรวจเต็มรูปแบบ)
June 27, 2025

คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยมหิดล รับฟังผลการดำเนินงานของส่วนงาน (University Cuncil Visit : 4) ครั้งที่ 12/2568 ของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

วันที่ 27 มิถุนายน 2568 ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วย กรรมการสภามหาวิทยาลัยมหิดล และทีมผู้บริหาร รับฟังผลการดำเนินงานของส่วนงาน (University Council Visit : 4) ครั้งที่ 12/2568 ของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และรับฟังผลการดำเนินงานที่ผ่านมา รวมทั้งการพัฒนาและความท้าทายในอนาคต โดยมี รองศาสตราจารย์ เภสัชกรสุรกิจ นาฑีสุวรรณ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณาจารย์ และบุคลากร เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็น ณ ห้องประชุม 606 อาคารราชรัตน์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และผ่านระบบออนไลน์

1. ผลสำเร็จที่ภาคภูมิใจของส่วนงานในระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ตามแผนยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมหิดล

ยุทธศาสตร์ที่ 1 World Class Research & Innovation
1. ร่วมผลักดันให้มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับการจัดอันดับ Subject Ranking อยู่ในอันดับ Top 100 ของโลก
2. หน่วยวิจัย/ศูนย์วิจัยใหม่เปิดดำเนินการแล้วเสร็จ 5 ศูนย์และมีผลการดำเนินงานที่สูงกว่าเป้าหมาย
3. ผลงานวิจัย/นักวิจัยของคณะฯ ได้รับรางวัลเกี่ยวกับการวิจัยและนวัตกรรมระดับนานาชาติจำนวนมากเช่น รางวัลจากInternational Exhibition of Inventions Geneva, Top 2% Scientists by Stanford University, Nagai Award Foundation เป็นต้น
4. ผลงานวิจัยนำไปสู่การกำหนดนโยบาย/แผนยุทธศาสตร์/prioritization ของประเทศในระบบสุขภาพ และระบบวิจัยในวงกว้าง เช่น การเข้าถึงยาในระบบประกันสุขภาพ มาตรฐานอุตสาหกรรมยา การกำหนดลำดับความสำคัญของการให้ทุนวิจัยด้านเชื้อดื้อยา เป็นต้น (โครงการต่อเนื่อง)
5. ผลิตผลงานวิจัยที่ทำให้เกิด real-world impact ระดับโลกผ่านการเพิ่มการเข้าถึงยาของประชากรในหลายประเทศในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ เอเชียใต้ และแอฟริกา

ยุทธศาสตร์ที่ 2 Innovative Education and Authentic Learning
1. หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต (ระดับปริญญาตรี) ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล (AUN-QA และ IAAHEH) เป็นแห่งแรกและ แห่งเดียวในประเทศไทย (โครงการต่อเนื่อง)
2. หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิตนานาชาติ (ระดับปริญญาตรี) เริ่มเปิดดำเนินการสำเร็จในปี พ.ศ. 2567
3. อาจารย์เภสัชมหิดลได้รับการรับรอง Professional Framework (PSF) ระดับ Principal / Senior Fellow สูงที่สุดในประเทศไทย
4. วิชา “สมุนไพรในชีวิตประจำวัน” ได้รับความนิยมสูงทั้งในมหาวิทยาลัยและประชาชน (ผ่านระบบ MOOC) (โครงการต่อเนื่อง)
5. หลักสูตรบูรณาการะดับบัณฑิตศึกษา “Pharmaceutical Science for Discovery and Development of Drugs & Health Products” เริ่มเปิดดำเนินการสำเร็จในปี พ.ศ. 2568
6. คณะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งใน Founding Member ของ FIP-UNESCO UNITWIN Centre for Excellence in Southeast Asia โดย International Pharmaceutical Federation (FIP) และเป็นแห่งเดียวที่มาจากประเทศไทย

ยุทธศาสตร์ที่ 3 Policy Advocacy, Leaders in Professional / Academic Services and Excellence in Capacity Building for Sustainable Development Goals
1. ศูนย์บริการด้านการตรวจวิเคราะห์ของคณะฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่องและกลายเป็น National Quality Infrastructure (NQI) ที่สำคัญของชาติในการส่งเสริม national health security และ industrial competitiveness
2. โรงงานยาของคณะ (ศูนย์ฝึกปฏิบัติเพื่อความเป็นเลิศด้านการผลิตยาและสมุนไพร) เริ่มเปิดดำเนินการปี พ.ศ. 2568 (โครงการต่อเนื่อง)

ยุทธศาสตร์ที่ 4 Management Innovation for Sustainability
1. คณะเภสัชศาสตร์ ได้รับรางวัล Thailand Quality Class Award เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในกลุ่มคณะเภสัชศาสตร์ของไทย
2. คณะเภสัชศาสตร์ ได้รับรางวัลชนะเลิศ MU Green Ranking 2 ปีต่อเนื่อง
3. ระบบ information system และ interfaces ของคณะฯ มีความคืบหน้าสู่เป้าหมายการเป็น e-office อย่างต่อเนื่อง

2. เป้าหมายที่ท่านคาดหวังว่าจะดำเนินการเพิ่มเติมในอีก 2 ปีข้างหน้า (ปีงบประมาณ 2569-2570)
ยุทธศาสตร์ที่ 1 World Class Research & Innovation
1. ผลักดันให้ศูนย์วิจัย Global health technology assessment center for low-to-middle income countries เป็นศูนย์วิจัย ที่สร้าง real-world impact ระดับโลก (โครงการต่อเนื่อง)
2. จัดตั้ง The China-Thailand “One-Belt-One-Road” Joint Lab of Traditional and Alternative Medicine ร่วมกับ Shanghai Institute of Organic Chemistry และ Chinese Academy of Science
3. จัดตั้งบริษัท Spin-off แห่งแรกของคณะฯ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการผลักดันนวัตกรรมของคณะสู่ความสำเร็จเชิงพาณิชย์
4. เพิ่มผลงานการตีพิมพ์ระดับ Top 1% ผ่านการทำ research partnership กับ ivy league universities

ยุทธศาสตร์ที่ 2 Innovative Education and Authentic Learning
1. ผลักดันหลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต (ระดับปริญญาตรี) ให้ได้รับการรับรองมาตรฐาน ACPE (Accreditation Council of Pharmacy Education, USA) เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย (โครงการต่อเนื่อง)
2. อาจารย์ คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล ได้รับการรับรอง Professional Framework (PSF) หรือ MU-PSF ร้อยละ 50 ขึ้นไป
3. เริ่มเปิดดำเนินการหลักสูตรบัณฑิตศึกษาในรูปแบบ satellite campus ในกลุ่มประเทศอาเซียน

ยุทธศาสตร์ที่ 3 Policy Advocacy, Leaders in Professional / Academic Services and Excellence in Capacity Building for Sustainable Development Goals
1. โรงงานยาของคณะเภสัชศาสตร์ (ศูนย์ฝึกปฏิบัติเพื่อความเป็นเลิศด้านการผลิตยาและสมุนไพร) ได้รับการรับรอง GMP/PIC-S ครบทั้ง 4 สายการผลิต (ยา สมุนไพร อาหารเสริม เครื่องสำอาง) ดำเนินการผลิตได้ครบทั้ง 4 สายการผลิต และสร้างรายได้ที่เพียงพอ (โครงการต่อเนื่อง)
2. ร้านยาของคณะเภสัชศาสตร์ สาขาศาลายา เปิดดำเนินการดูแลสุขภาพของนักศึกษา บุคลากรและชุมชนรอบศาลายา ผ่านระบบประกันสุขภาพ ของประเทศ (1. บริการสร้างเสริมสุขภาพ 2. 32 อาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 3. ระบบใบสั่งยา)

ยุทธศาสตร์ที่ 4 Management Innovation for Sustainability
1. คณะเภสัชศาสตร์ ได้รับรางวัล Thailand Quality Class Plus Award เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในกลุ่มคณะเภสัชศาสตร์ของไทย
2. ความมั่นคงทางการเงินเพิ่มขึ้นและมีเงินรายได้สะสมของคณะเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากฐานเดิม