คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยมหิดล รับฟังผลการดำเนินงานของส่วนงาน (University Cuncil Visit : 4) ครั้งที่ 41/2568 ของมหาวิทยาลัยมหิดล

มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมพิธีปิดงาน อว. แฟร์ (SCI POWER FOR FUTURE THAILAND) และงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2568
August 17, 2025
มหาวิทยาลัยมหิดล โชว์ศักยภาพด้านการส่งเสริมสุขภาวะนักศึกษา ในงาน อว.แฟร์ 2568 “Zone-B : U Well-being Station”
August 18, 2025

คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยมหิดล รับฟังผลการดำเนินงานของส่วนงาน (University Cuncil Visit : 4) ครั้งที่ 41/2568 ของมหาวิทยาลัยมหิดล

วันที่ 18 สิงหาคม 2568 ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วย กรรมการสภามหาวิทยาลัยมหิดล และทีมผู้บริหาร รับฟังผลการดำเนินงานของส่วนงาน (University Council Visit : 4) ครั้งที่ 41/2568 ของมหาวิทยาลัยมหิดล และรับฟังผลการดำเนินงานที่ผ่านมา รวมทั้งการพัฒนาและความท้าทายในอนาคต โดยมี ศาสตราจารย์ นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ผู้อำนวยการหน่วยงานในสำนักงานอธิการบดี และบุคลากร เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็น ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์นที รักษ์พลเมือง ชั้น 5 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และผ่านระบบออนไลน์

1. ผลสำเร็จที่ภาคภูมิใจของส่วนงานในระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ตามแผนยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมหิดล
ยุทธศาสตร์ที่ 1 World Class Research & Innovation
1. จัดทำระบบบริหารจัดการข้อมูลวิจัย MUREX Portal พัฒนาจากระบบ PURE ของ Elsevier ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางข้อมูลด้านพันธกิจวิจัยแบบครบวงจร (โครงการต่อเนื่อง)
2. การปรับปรุงและใช้กลไกการสนับสนุนต่าง ๆ ในรูปแบบของทุนวิจัย เช่น ทุนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัย ทุนสนับสนุนการสร้างกลุ่ม คลัสเตอร์วิจัย ทุนส่งเสริมความร่วมมือภายใต้เครือข่ายพันธมิตรการวิจัย การสนับสนุนทุนนักวิจัยหลังปริญญาเอก การสนับสนุนค่าใช้จ่ายการตีพิมพ์ผลงานในวารสารระดับ Q1 เป็นต้น (โครงการต่อเนื่อง)
3. โครงการอบรม Professional Researcher Empowerment Program (PREP) เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพบุคลากรวิจัยรุ่นใหม่ ให้สามารถสร้างงานวิจัยคุณภาพสูงที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน (Real World Impact) (โครงการต่อเนื่อง)
4. โครงการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย (Reinventing University) มหาวิทยาลัยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) ควบคู่กับการสนับสนุนด้วยงบประมาณเงินรายได้ เพื่อสร้างกลุ่มสาขาวิชา เทคนิคระดับสูงให้เกิดการยกระดับและขับเคลื่อนงานวิจัยของมหาวิทยาลัย สามารถรองรับศาสตร์ในอนาคต จำนวน 5 สาขา ได้แก่ AI based Diagnosis Medical Robotics Drug Discovery Biologics & Vaccine และ Medical Devices (โครงการต่อเนื่อง)
5. การให้ทุนสนับสนุนร่วมทำงานวิจัยกับสถาบัน หรือองค์กรต่างประเทศ เช่น Joint Units, Seed grant co-funding projects และ Postdoctoral fellowship (โครงการต่อเนื่อง)
6. เปิดพื้นที่แสดงงานวิจัย นวัตกรรมและเทคโนโลยีของมหาวิทยาลัย iDEA SPACE ณ ชั้น 1 อาคารสำนักงานอธิการบดี ที่รวบรวมผลงานวิจัยที่ทรงคุณค่าและโดดเด่น รวมทั้งผลงานที่มีศักยภาพในการต่อยอดเชิงพาณิชย์ ตลอดจนการนำไปใช้ประโยชน์ในระดับสังคมและอุตสาหกรรม (โครงการต่อเนื่อง)

ยุทธศาสตร์ที่ 2 Innovative Education and Authentic Learning
1. การพัฒนาอาจารย์
      1.1 การพัฒนาอาจารย์ตามเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพอาจารย์ (Mahidol University Professional Standards Framework, MUPSF) หรือเทียบเท่า ปัจจุบัน มีผู้ผ่านการรับรอง MUPSF ระดับ 2 จาก 4 ระดับ จำนวน 717 คน (นับสะสม) และมีผู้ผ่านการรับรอง PSF ประเภท Senior Fellow หรือเทียบเท่า MUPSF ตั้งแต่ระดับ 3 ขึ้นไป จำนวน 116 คน (นับสะสม) (ข้อมูล ณ 25 มิ.ย. 68) (โครงการต่อเนื่อง)
      1.2 โครงการ Nextgen Teaching: AI Mastery Series การอบรมเชิงปฏิบัติการด้าน Generative ให้กับอาจารย์
      1.3 โครงการพัฒนาศักยภาพอาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดล ด้านการศึกษา (Mahidol University Academic Development Program: MU – ADP) (โครงการต่อเนื่อง)
2. การพัฒนาหลักสูตร และการจัดการเรียนการสอน
      2.1 มหาวิทยาลัยดำเนินการประกันคุณภาพการศึกษาระดับหลักสูตร เพื่อให้ได้มาตรฐานทั้งในระดับชาติและระดับสากลอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีหลักสูตรที่ได้รับรองมาตรฐานคุณภาพการศึกษาหลักสูตรตามเกณฑ์ AUN-QA ระดับอาเซียนและหลักสูตรที่ได้รับรองคุณภาพมาตรฐานระดับสากลอื่น ๆ (Other Standards) รวมจำนวน 83 หลักสูตร (ปี 2561-ปัจจุบัน) จากหลักสูตรมหาวิทยาลัยมหิดล 389 หลักสูตร (ข้อมูล ณ 16 พ.ค. 68) (โครงการต่อเนื่อง)
      2.2 AI Prompt Support
      2.3 การจัดหลักสูตรสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงาน (Cooperative and Work Integrated Education : CWIE)
      2.4 รายวิชาศึกษาทั่วไปแบบยืดหยุ่น (GE Plus) รายวิชาในหมวดวิชาศึกษาทั่วไปสำหรับนักศึกษาหลักสูตรปริญญาตรี ปัจจุบัน มีราย ทั้งหมด 9 รายวิชา นับตั้งแต่เริ่มเปิดสอนในปีการศึกษา 2566 เป็นต้นมา มีนักศึกษาลงทะเบียนเรียน รวมทั้งสิ้น 7,557 คน (ข้อมูล ณ 16 พ.ค. 68) (โครงการต่อเนื่อง)
      2.5 General Education ข้ามสถาบัน (MU GenEd-X) การเปิดโอกาสให้นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ระดับปริญญาตรี หลักสูตรไทย สามารถลงทะเบียนเรียนรายวิชาศึกษาทั่วไปข้ามสถาบันอุดมศึกษาและเทียบโอนผลการเรียนและหน่วยกิตจากรายวิชาปีการศึกษา 2568 จำนวน 8 รายวิชา โดยเป็นรายวิชาศึกษาทั่วไปของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Chula MOOC Flexi)
      2.6 การพัฒนาบทเรียน/ รายวิชาออนไลน์ (MUx for Flexible Education) (https://mux.mahidol.ac.th/) (โครงการต่อเนื่อง)
      2.7 มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดทำหลักสูตรนำร่อง หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต – วิทยาศาสตรบัณฑิต ภายใต้แนวคิด “การศึกษาเพื่อโลกใบใหม่” ผ่านระบบ Open and Integrated Education Ecosystem เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เลือกเรียนตามความถนัดและสนใจ พร้อมฝึกงานกับภาคเอกชน เสริมประสบการณ์สร้างทักษะที่สามารถนำไปใช้ได้จริง
3. ระบบสนับสนุนด้านการศึกษา
      3.1 MU-Authentic Lifelong Learning: MU-ALL (https://lifelong.mahidol.ac.th/) (โครงการต่อเนื่อง)
      3.2 คลังหน่วยกิตมหาวิทยาลัยมหิดล (Mahidol University Credit Unit Bank System: MU-CBS) (โครงการต่อเนื่อง)
      3.3 AI Chatbot (Edubuddy Mahidol) การพัฒนา AI Chatbot สนับสนุนการประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาและบุคลากรมหาวิทยาลัยมหิดล (https://edubuddy.mahidol.ac.th/chatpage)
      3.4 Findme Mahidol Application (https://findme.mahidol.ac.th/)
4. การพัฒนานักศึกษา
      4.1 Student’s Journey การส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนานักศึกษาให้มี Global Citizen & Global Talent และให้มีแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ตั้งแต่แรกเข้าจนกระทั่งจบการศึกษาและกลับมาพัฒนามหาวิทยาลัยในฐานะศิษย์เก่า เช่น กิจกรรม Open House, การเตรียมความพร้อมนักศึกษาใหม่ สู่มหาวิทยาลัยมหิดล, Mahidol HIDEF, การพัฒนานักศึกษาให้ตระหนักถึงการพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมาย SDGs, Career Support Services และการส่งเสริมความผูกพันกับเครือข่ายศิษย์เก่า ภายใต้แนวคิด MU Alumni Connect เป็นต้น (โครงการต่อเนื่อง)
      4.2 Mahidol University-Collaborative Online International Learning (MU-COIL) (โครงการต่อเนื่อง)
      4.3 สิ่งสนับสนุนด้านการพัฒนานักศึกษาและสวัสดิการนักศึกษา
      – การปรับปรุงสนามกีฬา ลานกีฬาเพื่อสุขภาพ และอาคารอเนกประสงค์ MU Digital Gymnasium (โครงการต่อเนื่อง)
      – ห้อง Mahidol BLS Traning Center (อาคารหอพักนักศึกษา บ้านลีลาวดี (หอ 10)) (โครงการต่อเนื่อง)
      – การสร้างเสริมสุขภาวะทางใจและปัญญา (Heal Jai Festival)
      – แอปพลิเคชัน The Living OS ช่วยให้การจัดการหอพักเป็นระบบและเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลนักศึกษา

ยุทธศาสตร์ที่ 3 Policy Advocacy, Leaders in Professional / Academic Services and Excellence in Capacity Building for Sustainable Development Goals
1. โครงการขับเคลื่อนนโยบายชี้นำสังคม (Policy Advocacy Fund) ผ่านการให้ทุนสนับสนุนต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2563 มีผลงานจากทุนรวม 18 โครงการ และในปี พ.ศ. 2568 ปรับรูปแบบการจัดสรรทุนเพื่อให้เกิดประโยชน์และผลลัพธ์สูงสุดเชิงนโยบายผ่าน
      1.1 ทุนสนับสนุนห้องทดลองเชิงนโยบาย (Policy Lab Funding) จำนวน 2 ทุน
      1.2 ทุนสนับสนุนโครงการพันธกิจเพื่อสังคม (Social Engagement Funding) จำนวน 6 ทุน
      1.3 ทุนสนับสนุนโครงการเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยรูปแบบ “Living Lab” (SDGs Living Lab Funding) จำนวน 18 ทุน
2. โครงการนวัตกรรมทางสังคม (Social Innovation) เพื่อขับเคลื่อนนโยบายความครอบคลุมทางสังคม (Social Inclusiveness) การให้ทุนสนับสนุนการออกแบบนวัตกรรม ที่มุ่งแก้ปัญหา หรือยกระดับคุณภาพชีวิตของกลุ่มคนเปราะบาง สู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น
3. MUSEF Virtual Platform การเผยแพร่องค์ความรู้ทางวิชาการและผลงานวิจัยให้ประชาชนและสังคมเข้าถึงในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เช่น การจัดเสวนารูปแบบออนไลน์, การเผยแพร่ข้อมูลในรูปแบบคลิปวีดิโอ, ดำเนินการในรูปแบบ podcast, Facebook, Instagram และInfographic (โครงการต่อเนื่อง)
4. โครงการพัฒนาทักษะด้านวิชาการเพื่อเตรียมผลงานวิชาการรับใช้ท้องถิ่นและสังคมสำหรับการเข้าสู่ตำแหน่งวิชาการ Preparation for Socially-engaged Scholarship : PSES) (โครงการต่อเนื่อง)
5. การขับเคลื่อนนโยบายมหาวิทยาลัยสุขภาพดีด้วยนโยบายลดการบริโภคโซเดียม (Healthy University: Low Sodium Policy) เพื่อให้บุคลากรและนักศึกษาสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคโซเดียม ผ่านกิจกรรมให้ความรู้ สร้างการมีส่วนร่วม และขยายผลสู่ภาคประชาชน
6. หารือความร่วมมือร่วมกับกองทุนสนับสนุนการเสริมสุขภาพ (สสส.) เรื่อง การแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทย
7. โครงการมหิดลเพื่อการเปลี่ยนแปลง รุ่นที่ 1 (Mahidol Change Agent #1)
8. MU Ecosystem for SDGs การเสริมสร้างขีดความสามารถ เพื่อให้บุคลากรและนักศึกษา มี SDGs Mindset นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ให้เกิด Real World Impact อย่างยั่งยืน เช่น Capacity Building Projects, SDGs Mindsets, โครงการ Mahidol SDGs Impact Challenge 2024-2025, งานมหกรรมมหิดลเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน 2024 (Mahidol University’s SDGs Showcase 2024) และนิทรรศการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยมหิดล (Mahidol Sustainability Week) (โครงการต่อเนื่อง)

ยุทธศาสตร์ที่ 4 Management Innovation for Sustainability
1. ด้านบริหารจัดการสู่ความยั่งยืน
      1.1 การพัฒนาบุคลากรด้านคลังและพัสดุให้มีทักษะและความรู้ที่ทันสมัย เช่น การอบรมเครือข่ายนักวิชาการพัสดุ การจัดอบรมเครือข่ายนักวิชาการเงินและบัญชี จัดอบรมให้บุคลากร ทำความรู้จักและความเข้าใจ RPA (Robotic Process Automation)รวมถึงจัดอบรมให้ความรู้ด้านการเงิน การคลัง
      1.2 เตรียมการทบทวนแผนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ.2567-2570 เพื่อทบทวน กลยุทธ์ ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และบริบทที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน
      1.3 การจัดทำแผนการจัดสรรเงินลงทุนระยะยาว 3 ปี (Strategic Asset Allocation: SAA)
      1.4 การสร้างความร่วมมือด้านวิชาการ วิจัย การศึกษา กับสถาบันการศึกษา และองค์กรภายนอก เช่น
      – มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดเสวนาด้านบริหาร วิชาการ วิจัยและนวัตกรรม
      – มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MoU) ส่งเสริมงานวิจัย นวัตกรรมและกิจกรรมเพื่อสังคมและความยั่งยืน
      – มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MoU) ส่งเสริมการวิจัย นวัตกรรม กิจกรรมเพื่อสังคมและความยั่งยืน
      – มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ลงนามความร่วมมือ โครงการนวัตกรรมต้นแบบ Smart Agriculture Industry (SAI) เพื่อการเรียนรู้และบ่มเพาะแนวทางเกษตรอัจฉริยะ โดยใช้พื้นที่บริเวณอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ เป็น Sandbox
      – มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MoU) ส่งเสริมงานวิจัย นวัตกรรมและด้านการศึกษา
      – มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MoU) ส่งเสริมการวิชาการ วิจัย และนวัตกรรม
      1.5 จัดทำระบบติดตามผลการดำเนินงานแบบเรียลไทม์ (Prototype) Team Performance Data Dashboard เพื่อช่วยในการตัดสินใจในการจัดทำแผนการดำเนินงาน (Data-Driven Decision Making)
2. ด้านกายภาพและสิ่งแวดล้อม
      2.1 การดำเนินนโยบายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการลดผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ภายใต้แผน “9 to Zero” หรือ “ก้าวสู่ศูนย์” ที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในมหาวิทยาลัยสุทธิเป็นศูนย์ภายใน 9 ปี หรือ ภายในปี พ.ศ.2573 (โครงการต่อเนื่อง)
      2.2 ความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ (Laboratory Safety)
      – การยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี (ESPReL) อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน มีห้องปฏิบัติการได้รับการยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี จำนวน 491 ห้องปฏิบัติการ จากห้องปฏิบัติการทั้งหมด 605 ห้อง (ร้อยละ 81.15) (โครงการต่อเนื่อง)
      – การตรวจประเมินและรับรองห้องปฏิบัติการในรูปแบบ peer evaluation ปัจจุบัน มีห้องปฏิบัติการได้รับการ รับรองห้องปฏิบัติการในรูปแบบ Peer Evaluation รวมทั้งสิ้น 92 ห้องปฏิบัติการ จากห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีทั้งหมด 605 ห้องปฏิบัติการ (ร้อยละ 15.20) (โครงการต่อเนื่อง)
      2.3 การพัฒนาเกณฑ์และแนวทางการตรวจประเมินด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (MU Safety Standard) (โครงการต่อเนื่อง)
      2.4 การดำเนินการด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจากการทำงาน การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับแนวทาง วิธีการตรวจสุขภาพที่เหมาะสม จัดกิจกรรมการตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยง และการจัดอบรมการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสุขภาพ (โครงการต่อเนื่อง)
      2.5 การปรับปรุงอาคารชุดพักอาศัย Condo A ให้มีความปลอดภัย มีความสะดวกสบาย และความเหมาะสมต่อการอยู่อาศัย
3. ด้านทรัพยากรบุคคล
      3.1 การบริหาร Global Talent (โครงการต่อเนื่อง)
      – การสรรหาอาจารย์หรือนักวิจัยที่มีศักยภาพสูงระดับนานาชาติ (Global Talent) จากภายนอก 12 ราย โดยพิจารณา จากผู้ที่มีผลงานวิจัยตีพิมพ์ (Publication) ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ
      – การค้นหา Global Talent สายวิชาการ เพื่อ Engage และ Retain ผ่านการให้รางวัล จำนวน 7 ราย จาก 6 ส่วนงาน โดยพิจารณาจากเกณฑ์ด้านผลงานวิจัย การศึกษา และบริการวิชาการ การค้นหา และพัฒนา Global Talent สายสนับสนุน 4 ตำแหน่ง (นักวิเทศสัมพันธ์ นักบริหารงานวิจัย นักเอกสารสนเทศ นักวิชาการศึกษา) ตามแผนพัฒนารายบุคคล (Individual Development Plan) โดยการให้ทุนการพัฒนา จำนวน 98 ราย จาก 20 ส่วนงาน
      3.2 การพัฒนาทักษะดิจิทัลของบุคลากรและทักษะที่จำเป็นในอนาคต (Upskill-Reskill) ผ่านหลักสูตร Digital Awareness (โครงการต่อเนื่อง)
      3.3 การพัฒนาระบบบริหารสวัสดิการเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความผูกพันของบุคลากร
      – จัดให้มีศูนย์ดูแลสุขภาวะทางใจของบุคลากรและนักศึกษา (MU Mind) เพื่อให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพจิตโดยนักจิตวิทยาผ่านช่องทางออนไลน์ (OOCA)
      3.4 การมอบอำนาจให้ส่วนงานเป็นผู้พิจารณาการขอตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ (MU Sandbox) โดยใช้ระยะเวลาดำเนินการเฉลี่ย 6 เดือน จากเป้าหมาย 8 เดือน (โครงการต่อเนื่อง)
      3.5 การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการเสนอการขอตำแหน่งทางวิชาการของบุคลากรสายวิชาการ และบุคลากรสายสนับสนุนให้ได้รับการพิจารณาที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
4. การปรับโครงสร้างหน่วยงานภายในของมหาวิทยาลัย
      4.1 การปรับโครงสร้างหน่วยงานภายในของมหาวิทยาลัย ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น
      – ปี พ.ศ. 2568 ระดับหน่วยงานภายในสำนักงานอธิการบดี
      – ยุบเลิก ศูนย์ตรวจสอบภายใน และจัดตั้ง เป็น สำนักงานคณะกรรมการตรวจสอบการบริหารงานประจำมหาวิทยาลัย สังกัดสำนักงานสภามหาวิทยาลัย
      – ยุบเลิก โครงการจัดตั้งศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพ มหาวิทยาลัยมหิดล
5. ด้านระบบพัฒนาคุณภาพ
      5.1 มหาวิทยาลัยดำเนินการตรวจประเมินคุณภาพส่วนงานตามเกณฑ์ EdPEx พร้อมกลไกสนับสนุน (โครงการต่อเนื่อง) เช่น MU EdPEx Assessor Training, MU EdPEx Assessor Calibration เป็นต้น ส่งผลให้ส่วนงานมีระดับคะแนนที่เพิ่มขึ้น ดังนี้
      5.2 มหาวิทยาลัยมหิดล และส่วนงานได้นำ ‘เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ’ เข้ามาเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยปรับปรุงกระบวนการบริหารจัดการ และขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จจนได้รับรางวัล TQA/TQC+/TQC ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 จนถึงปัจจุบัน (โครงการต่อเนื่อง)
6. ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
      6.1 การพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะ MARVIS (Mahidol’s Adaptive Research & Visionary Intelligence System)
      6.2 จัดทำ MU Digital Identity รองรับการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยเชื่อมกับระบบการรับรองลายมือชื่อของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) (โครงการต่อเนื่อง)
      6.3 จัดทำระบบ e-Receipt การแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นไปตามมาตรฐานประเทศ และเชื่อมโยง Verification จาก Enterprise ภายนอกกับให้เข้ากับระบบ Single-sign-on ของมหาวิทยาลัย (โครงการต่อเนื่อง)
      6.4 นำระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอยู่ภายใต้ระบบบริหารจัดการสำนักงาน e-office งานบริการคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มาใช้งานภายในมหาวิทยาลัยมหิดล
      6.5 จัดทำกระบวนการจัดเก็บรวบรวมชุดข้อมูลตามที่สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) กำหนด พร้อมกำหนดมาตรฐานโครงสร้างชุดข้อมูลการอุดมศึกษาที่ต้องนำส่งเพื่อกำหนดกรอบการรวบรวมกับส่วนงาน/หน่วยงาน ที่ดูและรับผิดชอบ (โครงการต่อเนื่อง)
      6.6 จัดทำ Meta Data และ Data Catalog เพื่อช่วยบริหารจัดการชุดข้อมูลต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ (โครงการต่อเนื่อง)
      6.7 จัดทำโครงการ PDPA Awareness บนระบบ Mahidol University Extension (MUx) เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาและบุคลากรมหาวิทยาลัยมหิดลเกิดความตระหนักรู้ในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล จำนวน 2 หลักสูตร (โครงการต่อเนื่อง)
      1. หลักสูตรหลักการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับนักศึกษาและบุคลากรมหาวิทยาลัยมหิดล
      2. หลักสูตรสิทธิและข้อควรปฏิบัติในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ปัจจุบันมีบุคลากรและนักศึกษาผ่านการเรียนรู้โครงการ PDPA Awareness รวมเป็นจำนวน 26,555 คน
7. ด้านกฎหมายและธรรมาภิบาล
      7.1 การทบทวนข้อบังคับ ประกาศ แนวปฏิบัติ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยให้เกิดความคล่องตัว เช่น ประกาศสำนักงานอธิการบดี เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการเบิกจ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงานของสำนักงานอธิการบดี พ.ศ. 2568 , แนวทางการเบิกจ่ายเงินทดรองจ่าย, แจ้งหลักเกณฑ์ปฏิบัติตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย, เปลี่ยนแปลงรูปแบบฎีกาเบิกจ่ายในระบบ MUERP และจัดทำเงินกองทุนหมุนเวียนเพื่องานวิจัย
      7.2 การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA) จากการดำเนินการที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยมีผลคะแนนการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐส่วนใหญ่อยู่ในระดับ “ผ่าน” (มากกว่า 85 คะแนน) (โครงการต่อเนื่อง)
8. ด้านการบริหารจัดการความเสี่ยง
      8.1 การพัฒนาและวางระบบการบริหารความเสี่ยงและระบบการบริหารความต่อเนื่องของมหาวิทยาลัย (โครงการต่อเนื่อง)
9. ด้านการตลาดและสื่อสารองค์กร
      9.1 มหาวิทยาลัยจัดทำ Communication and Branding Strategy เพื่อยกระดับคุณค่าของแบรนด์ (Brand Value) มหาวิทยาลัยมหิดล โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ
      • Communication Synergy การสื่อสารแบบองค์รวม
      – Mahidol Town Hall และ OP Town Hall
      – Own- channel Improvement เช่น โครงการ Mahidol GenS กิจกรรม CU x MU Together for Sustainable Tomorrow
      – Content Management based on Faculty Project เช่น Create Leadership Visibility และ The Standard Economic Forum
      • Sustainable Brand การสร้างแบรนด์ที่ยั่งยืน
      – Promote Impact Leadership เช่น กิจกรรม Meet the Press
      • World-class Reputation การส่งเสริมภาพลักษณ์ในระดับโลก
      – การสร้างร่วมมือเพื่อขับเคลื่อน นวัตกรรม Al ทางการแพทย์ร่วมกับ SIAMAI CLOUD (NVIDIA)
      9.2 จัดตั้ง กองทุนมูลนิธิมหิดลเพื่อความยั่งยืน มูลนิธิมหาวิทยาลัยมหิดล ในพระราชูปถัมภ์ฯ มุ่งสนับสนุนและต่อยอดงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยและสังคมโลก ภายใต้จุดแข็งของมหาวิทยาลัยมหิดล
      9.3 การสร้างความร่วมมือกับแบรนด์ที่ยั่งยืนเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกกับสังคม เช่น Element72, Stanley และ Thann

2. เป้าหมายที่ท่านคาดหวังว่าจะดำเนินการเพิ่มเติมในอีก 2 ปีข้างหน้า (ปีงบประมาณ 2569-2570)
ยุทธศาสตร์ที่ 1 World Class Research & Innovation
1. Nobel Prize Research Initiatives ซึ่งประกอบด้วย 3 Action Plan ได้แก่
      1.1 Synergistic Research Platform การสร้างกลุ่มวิจัยขนาดใหญ่เพื่อเสริมศักยภาพในการสามารถสร้าง Real-World Impact รวมถึงการ Share Facilities ด้านการวิจัย
      1.2 Enhancing Research and Innovation to Real-World Impact เพื่อเพิ่ม TRL
      1.3 Research Funding Process Improvement
2. โครงการ AI Playground ความร่วมระหว่างมหาวิทยาลัยมหิดล และคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
3. การผลักดันงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดลสู่การพลิกโฉมวงการสาธารณสุขไทย โดยร่วมกับ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ปรับปรุง MU-Bio Plant โรงงานผลิตยาที่มีชีวิต (Living Drug Factory) แห่งแรกของประเทศ ให้สามารถผลิตยากลุ่ม ATMP ให้คนไทยเข้าถึงผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูงในราคาที่ถูกลง
4. การสนับสนุนและสร้างความร่วมมือทางด้านวิชาการ งานวิจัย และการพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยมหิดลและมูลนิธิกสิกรไทย โครงการ “น่านแซนด์บ๊อกซ์

ยุทธศาสตร์ที่ 2 Innovative Education and Authentic Learning
1. Future – Ready Education: Empowering Learners
2. เพิ่มจำนวนหลักสูตรที่ได้รับการรับรองคุณภาพตามมาตรฐานระดับสากล
3. การพัฒนานักศึกษาให้มี Global Citizen & Global Talent และให้มีแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืน เช่น โครงการเสริมสร้างความสัมพันธ์นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดลระหว่างวิทยาเขต โครงการ CU x MU Sustainability Fest 2026 และโครงการ SDGs to Real World Impact
4. การส่งเสริมและสนับสนุนด้านบริการและสวัสดิการนักศึกษา เช่น ศูนย์ MU Well Being Center การปรับปรุงด้านหอพักนักศึกษา
5. ดำเนินการสนับสนุนด้านอาชีพให้แก่นักศึกษา และเสริมสร้างเครือข่ายศิษย์เก่าผ่านการพัฒนากระบวนการรวบรวมทักษะ Soft Skills ที่ขาดแคลน
6. การดำเนินงานด้านหลักสูตรสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงาน (Cooperative and Work Integrated Education : CWIE)

ยุทธศาสตร์ที่ 3 Policy Advocacy, Leaders in Professional / Academic Services and Excellence in Capacity Building for Sustainable Development Goals
1. นโยบายมหาวิทยาลัยสุขภาวะ – Holistic Well-being University Policy
2. มหิดลเพื่อการเปลี่ยนแปลง (Mahidol Change Agent)
3. Co-branding หลักสูตรอบรมร่วมกับ CIFAL Victoria, University of Victoria คณะศิลปศาสตร์ และคณะเวชศาสตร์เขตร้อน
4. SDG Living Lab ต้นแบบจากภายในด้านการจัดการขยะ / อาหารอย่างยั่งยืน
5. สร้างความร่วมมือในงานวิชาการสู่การสร้างผลกระทบเชิงบวกในสังคม เพื่อแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทย ด้วยการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (Sandbox) ด้านความปลอดภัยทางถนน ณ ชุมชนโดยรอบและภายในพื้นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา และวิทยาเขตอำนาจเจริญ รวมทั้งพัฒนาบทบาทและสมรรถนะภาคีในการยกระดับความปลอดภัยทางถนนด้วย การบูรณาการมาตรการ 3E’S (Engineering, Enforcement, Education)
6. ความร่วมมือทางด้านการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุขกับรัฐเอกราชซามัว ด้วยยุทธศาสตร์การทูตเชิงเวชการ (medical diplomacy) ภายใต้การสนับสนุนจาก กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ (TICA) สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวลลิงตัน และมูลนิธิมหาวิทยาลัยมหิดล มูลนิธิมหาวิทยาลัยมหิดล ในพระราชูปถัมภ์ฯ

ยุทธศาสตร์ที่ 4 Management Innovation for Sustainability
1. ด้านบริหารจัดการสู่ความยั่งยืน
      1.1 การพัฒนาระบบการจัดซื้อจัดจ้างอิเล็กทรอนิกส์ (Mahidol e-Procurement Platform)
      1.2 การบูรณาการระบบ e-Procurement กับระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) ของมหาวิทยาลัย
      1.3 การพัฒนาระบบการประเมินผลและติดตามการใช้จ่ายงบประมาณแบบ Real-time
      1.4 พัฒนาระบบเวชระเบียนกลางด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนและระบบบริหารจัดการเอกสารดิจิทัลสำหรับนักศึกษา (Blockchain-Based Personal Health Record and Digital Credential System for MU Wallet)
      1.5 การพัฒนาแพลตฟอร์มกลางสำหรับบริหารจัดการเงินอุดหนุนวิจัยและบริการวิชาการ (Administration of Research Grants and Academic Service Funds)
      1.6 การจัดทำแผนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. 2571-2574
      1.7 เสริมสร้างองค์ความรู้ทางด้านการเงินที่เหมาะสมในการเพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยงานภายในของมหาวิทยาลัย
      1.8 การลงทุนและเตรียมรูปแบบการลงทุนในการเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่มีลักษณะเป็นหลักทรัพย์ (Securities) (Security Token Offering: STO)
      1.9 การจัดทำระบบฐานข้อมูลการใช้ประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์ (Digitization Data Base Platform)
2. ด้านกายภาพและสิ่งแวดล้อม
      2.1 การยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัย มหาวิทยาลัยมหิดล (MU Safety Standard) ให้สอดคล้องตามกฎหมายและครอบคลุมทุกบริบทความปลอดภัยภายในมหาวิทยาลัย
      2.2 การปรับปรุงอาคารชุดพักอาศัย Condo B
3. ด้านทรัพยากรบุคคล
      3.1 การบริหารจัดการ Global Talent
      – เพิ่มสัดส่วนของ Global Talent (Attraction Rate) ให้ได้ “ร้อยละ 3”
      – รักษาอัตราการคงอยู่ของ Global Talent (Retention Rate) ให้ไม่น้อยกว่า “ร้อยละ 95”
      3.2 การส่งเสริมค่านิยมองค์กร (Core Values) โดยมีความสำเร็จของการจัดกิจกรรมส่งเสริมค่านิยมมหิดล อยู่ในระดับ “มาก”
      3.3 การพัฒนาระบบบริหารสวัสดิการเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความผูกพันของบุคลากร
      3.4 การพัฒนาระบบสารสนเทศสำหรับการขอตำแหน่งทางวิชาการ
4. การปรับโครงสร้างหน่วยงานภายในของมหาวิทยาลัย
      4.1 ทบทวน นิยาม เกณฑ์การจัดตั้ง ยุบเลิก หน่วยงานภายในของมหาวิทยาลัย
5. ด้านระบบพัฒนาคุณภาพ
      5.1 การตรวจประเมินคุณภาพส่วนงานตามเกณฑ์ EdPEx พร้อมกลไกสนับสนุนเพื่อให้ส่วนงานได้ระดับคะแนนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
6. ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
      6.1 AI และเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ให้คลอบคลุมการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ เช่น
      • การวิเคราะห์ข้อมูลด้านการเงิน งบประมาณและการจัดซื้อจัดจ้าง
      • พัฒนาระบบ ระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ ให้สามารถบริหารจัดการเอกสารและการวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศด้วย AI Agent
      6.2 กำหนดนโยบายและแนวทางปฏิบัติด้านธรรมาภิบาลข้อมูล มหาวิทยาลัยมหิดล
      6.3 จัดทำ Dashboard สนับสนุนพันธกิจหลักของมหาวิทยาลัยเพื่อสนับสนุนการใช้ข้อมูลเพื่อตัดสินใจ
7. ด้านกฎหมายและธรรมาภิบาล
      7.1 มีผลประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) ของมหาวิทยาลัยมหิดลสูงขึ้น ในระดับ 95 คะแนนขึ้นไป
8. ด้านการบริหารจัดการความเสี่ยง
      8.1 พัฒนาระบบสารสนเทศด้านการบริหารจัดการความเสี่ยงมหาวิทยาลัยมหิดล (MUERM)
9. ด้านการตลาดและสื่อสารองค์กร
      9.1 โครงการระดมทุนสู่กองทุนมูลนิธิมหิดลเพื่อความยั่งยืน มูลนิธิมหาวิทยาลัยมหิดล ในพระราชูปถัมภ์ฯ