วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ สำนักงานแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization: ILO) จัดเสวนา “Achieving Social Justice through Inclusive Social Health Protection” เพื่อเฉลิมฉลอง “วันแห่งความยุติธรรมทางสังคม” (World Day of Social Justice) ซึ่งตรงกับวันที่ 20 กุมภาพันธ์ของทุกปี โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วย ดร.ศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน และ Ms. Kaori Nakamura-Osaka, Assistant Director-General and Regional Director for Asia and the Pacific, International Labour Organizatio (ILO) กล่าวเปิดงาน ในการนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.ธันวดี สุขสาโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวต้อนรับ พร้อมแนะนำหลักสูตรการจัดการสาธารณสุขมูลฐานมหาบัณฑิต (หลักสูตรนานาชาติ) ที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างระบบสาธารณสุข และสนับสนุนกลไกการคุ้มครองทางสังคมด้านสุขภาพให้ทั่วถึงและเป็นธรรม โดยมี คณาจารย์ นักวิชาการ บุคลากร และนักศึกษา สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล และผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน ณ ห้องประชุมบุญศิริ อาคารฝึกอบรม สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล และผ่านระบบออนไลน์
ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจ อาทิ การบรรยายพิเศษ หัวข้อ “Inclusion as a Cornerstone for Universal Social Health Protection” โดย รองศาสตราจารย์ ดร.วรรณฤดี อิสรานุวัฒน์ชัย นักวิจัยอาวุโสจากโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) และ เวทีเสวนาระดับนานาชาติ หัวข้อ “Insights on Initiatives for Inclusive Social Health Protection” โดย รองศาสตราจารย์ ดร.เสาวคนธ์ รัตนวิจิตราศิลป์ ภาควิชาสังคมและสุขภาพ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล Prof. Phạm Tiến Nam, Hanoi University of Public Health สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม Ms. Rashim Bedi, Self Employed Women’s Association – SEWA ประเทศอินเดีย Ms. Emiko Nagasawa, Japan Business Federation – Keidanren ประเทศญี่ปุ่น และ Mr. Sreng Sophornreaksmey, Cambodia National Social Protection Council – NSPC ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยการประชุมครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้คณาจารย์ นักวิชาการ บุคลากร และนักศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการคุ้มครองสุขภาพถ้วนหน้า และการสร้างความเป็นธรรมในการเข้าถึงระบบสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางอีกด้วย