วันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 ศาสตราจารย์ ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานเปิดงานประชุมวิชาการนานาชาติศูนย์ศึกษาการย้ายถิ่นมหิดล ครั้งที่ 7 โอกาสนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.นภเรณู สัจจรักษ์ ธีระฐิติ รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวต้อนรับ รองศาสตราจารย์ ดร.เฉลิมพล แจ่มจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิทั้งภายในและภายนอก ประกอบด้วย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.อภิชาติ จำรัสฤทธิรงค์ ที่ปรึกษาอาวุโส สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ศาสตราจารย์ ดร.สุรีย์พร พันพึ่ง ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการย้ายถิ่นมหิดล สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล Dr. Sabine Henning, United Nations Economic and Social Commission for Asia and the Pacific (UNESCAP) ดร.วาสนา อิ่มเอม กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ สำนักงานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Dr. Joanna Dabao, International Organization for Migration (IOM) Professor Kaoru Aoyama, Kobe University ประเทศญี่ปุ่น Professor Marina Khramova, The People’s Friendship University of Russia (RUDN University) and the Institute for Demographic Research, FCTAS RAS, Russian Federation, Associate Professor Rosalia Sciortino, SEA Junction ร่วมการบรรยาย จัดโดย ศูนย์การศึกษาการย้ายถิ่นฐานมหิดล ระหว่างวันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2568 ณ ห้องสระบัว (109) ชั้น 1 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
ศูนย์การศึกษาการย้ายถิ่นฐานมหิดล (Mahidol Migration Center) ภายใต้สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากกองทุนความร่วมมือระดับโลก (Global Partnerships Division) อย่างต่อเนื่อง โดยมีพันธกิจด้านการวิจัย การให้ข้อมูล และการสร้างเครือข่ายเกี่ยวกับประเด็นการย้ายถิ่นฐาน ทั้งภายในและนอกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และได้จัดทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การหารือเชิงนโยบาย การประชุมเชิงปฏิบัติการ การฝึกอบรม และการเผยแพร่ผลงานวิจัย สร้างผลผลิตตั้งแต่สิ่งพิมพ์งานวิจัยและข้อเสนอแนะเชิงนโยบายไปจนถึงกิจกรรมการเสริมสร้างศักยภาพและความร่วมมือในระดับภูมิภาค ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาสาขาวิชาการย้ายถิ่นฐาน ความเข้มแข็งของความร่วมมือแบบสหวิทยาการและนานาชาติ เพื่อลดช่องว่างในนโยบายด้านการย้ายถิ่นฐาน ตอบสนองต่อสถานการณ์การย้ายถิ่นฐานกับพันธมิตรในภูมิภาค สู่มาตรฐานระดับโลก
ขอบคุณภาพข่าว: สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล


















