คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยมหิดล รับฟังผลการดำเนินงานของส่วนงาน (University Council Visit : 2) ครั้งที่ 40/2564 ของโครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์

มหาวิทยาลัยมหิดล ขอแสดงความยินดีกับส่วนงานที่ได้รับรางวัล “กิจกรรมสถานศึกษาปลอดภัย” ประจำปี 2564 จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน
August 27, 2021
คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ ม.มหิดล จัดโครงการการฝึกอบรมพัฒนาความรู้ ทักษะและความสามารถการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (MU-EN Camp)
August 29, 2021

คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยมหิดล รับฟังผลการดำเนินงานของส่วนงาน (University Council Visit : 2) ครั้งที่ 40/2564 ของโครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์

วันที่ 27 สิงหาคม 2564 ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วย กรรมการสภามหาวิทยาลัยมหิดล รับฟังผลการดำเนินงานของส่วนงาน (University Council Visit : 2) ครั้งที่ 40/2564 ของโครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ เพื่อกำหนดเป้าหมาย แผนดำเนินการปีงบประมาณ 2564–2565 และรับฟังผลสำเร็จของการดำเนินงานที่ผ่านมา รวมทั้ง การพัฒนาและความท้าทายในอนาคต โดยมี อาจารย์ แพทย์หญิงมนทกานติ์ โอประเสริฐสวัสดิ์ รองอธิการบดีฝ่ายโครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วยผู้บริหารวิทยาเขตฯ เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็น ผ่านการประชุมออนไลน์ โดยมีประเด็น ดังต่อไปนี้

การดำเนินการตามเป้าหมายที่ผ่านมาและคาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต

1. ศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์เปิดให้บริการแก่ประชาชนในส่วนภูมิภาคได้อย่างเป็นทางการ โดยบูรณาการทั้งการแพทย์แผนปัจจุบัน การแพทย์แผนไทย และการแพทย์แผนจีน และมุ่งสู่ความเป็นเลิศในด้านผู้สูงอายุ

2. พัฒนาคุณภาพงานวิจัยตามพันธกิจของวิทยาเขต บนพื้นฐานของปัญหาท้องถิ่น โดยในปี 2563 มีจำนวนผลงานวิจัยตีพิมพ์ในฐานข้อมูลสากล จำนวน 14 เรื่อง โดยอยู่ใน Quartile 1 จำนวน 11 เรื่อง และในปี 2564 ถึงปัจจุบัน (เดือนกรกฎาคม) จำนวน 16 เรื่อง และอยู่ใน Quartile 1 จำนวน 11 เรื่อง

3. การให้บริการวิชาการเป็นที่ยอมรับของหน่วยงานในพื้นที่ เช่น เป็นที่ปรึกษาแผนพัฒนาจังหวัดนครสวรรค์ (ปี 2560-2564) โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเพิ่มขึ้นปีละไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท มีผลงานจดแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา และมีบุคลากรที่ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการที่เกี่ยวกับบึงบอระเพ็ด 3 ชุด

4. มีหลักสูตรระดับปริญญาตรีที่เป็น Outcome based education และบูรณาการการเรียนการสอนกับพื้นที่ (area based) โดยมีหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต (สาขาเกษตรกรปราชญ์เปรื่อง) ที่ได้รับคัดเลือกเป็นหลักสูตรในโครงการบัณฑิตพันธุ์ใหม่

เป้าหมายที่จะดำเนินการเพิ่มเติมในอีก 2 ปีข้างหน้า

1. ตีพิมพ์ผลงานวิจัยในวารสารระดับชาติและระดับนานาชาติ จำนวน 29 เรื่อง บนพื้นฐานของปัญหาในพื้นที่ และส่งเสริมผลิตนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาในท้องถิ่น อย่างน้อย 1 เรื่อง

2. พัฒนาหลักสูตรระดับปริญญาตรีให้เป็น Flexible education : micro credential ภายใต้มาตรฐาน AUN-QA และพัฒนาหลักสูตรที่เป็น upskill/reskill และรายวิชาในระบบ MUx เพื่อตอบสนองต่อผู้เรียนกลุ่มอื่นในสถานประกอบการ และคนทำงาน เพื่อสร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิต และเตรียมความพร้อมในการเปิดหลักสูตรระดับปริญญาโทหลักสูตรที่ 2

3. ศูนย์การแพทย์ฯ วางแผนพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุอย่างครบวงจร รองรับปัญหาของผู้สูงอายุระยะ Post-acute และขยายการให้บริการทางการแพทย์ตามความต้องการของพื้นที่ ภายในปีงบประมาณ 2565 โดยมีความร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่

4. พัฒนา MUNA Farm ให้เป็นแหล่งเรียนรู้และเป็นต้นแบบให้กับชุมชนในการทำเกษตรแนวใหม่ รวมถึงผลิตสินค้าทางการเกษตรเพื่อจำหน่ายให้กับบุคคลทั่วไป และเป็นแหล่งฝึกงานภาคปฏิบัติให้กับนักศึกษาหลักสูตร วท.บ.เกษตรกรปราชญ์เปรื่อง และส่งเสริมงานวิชาการเพื่อสังคม

5. ศูนย์ฟิสิกส์ทฤษฎีและปรัชญาธรรมชาตินครสวรรค์ เตรียมความพร้อมในการสร้างระบบนิเวศน์ทางวิชาการทางฟิสิกส์ทฤษฎีและการประยุกต์กับศาสตร์อื่นๆ ให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก ผลิตผลงานวิจัยระดับสูงทางฟิสิกส์ทฤษฎี จักรวาลวิทยา และองค์ความรู้รากฐานในศาสตร์อื่นๆ โดยผลิตผลงานวิจัย ปีละ 2 เรื่องต่อคน และเตรียมความพร้อมในการเปิดหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาฟิสิกส์ทฤษฎีและปรัชญาธรรมชาติ

6. พัฒนาองค์กร เป็น Mindful Campus ร่วมกับศูนย์จิตตปัญญาศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล และขยายสู่สังคมชุมชนโดยรอบในจังหวัดนครสวรรค์

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้กล่าวชื่นชมและสนับสนุนแนวทางการดำเนินงานของโครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ เห็นถึงศักยภาพของทีมงานในการดำเนินงานไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ และให้ดำเนินการสร้างความร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และส่วนงานภายในของมหาวิทยาลัยเพื่อพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุอย่างครบวงจรต่อไป นอกจากนั้นวิทยาเขตฯ มีข้อได้เปรียบเชิงพื้นที่ ที่ประชุมได้เสนอแนวคิดการจัดทำ Flagship หรือทำโครงการขนาดใหญ่/โครงการระยะยาว ที่ก่อให้เกิดประโยชน์และสร้างรายได้ให้แก่คนในพื้นที่อย่างแท้จริงและยั่งยืน และสนับสนุนให้วิทยาเขตฯ เป็นผู้นำชี้นำสังคมในทุกด้าน เช่น การแพทย์ สาธารณสุข เกษตรกรรม เป็นต้น