วันที่ 11 มิถุนายน 2563 รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงอรุณี ธิติธัญญานนท์ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับทุนพิเศษจากโครงการลอรีอัล ประเทศไทย “เพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์” สาขางานวิจัยโควิด-19 ในหัวข้องานวิจัย “โครงการวิจัยเพื่อพัฒนาวิธีการวินิจฉัย วิธีการรักษาโรค วัคซีนของโรค COVID-19 และการติดตามการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางพันธุกรรมและระบาดวิทยา ที่เกิดจากเชื้อไวรัส SARS-CoV–2” โดยบริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนทุนวิจัยแก่สตรีนักวิจัยที่มีผลงานสร้างประโยชน์อย่างโดดเด่นในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในหลากหลายด้าน พร้อมนี้ รองศาสตราจารย์ ดร. พลังพล คงเสรี คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลและศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. ม.ร.ว.ชิษณุสรร สวัสดิวัตน์ ที่ปรึกษาคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และที่ปรึกษา สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมแสดงความยินดี ณ ห้องไลลา บางกอกคลับ อาคารสาทรซิตี้ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ
รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงอรุณี ธิติธัญญานนท์ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงรายละเอียดของงานวิจัยว่า นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 จึงได้มีการทำงานร่วมกับนักวิจัยคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และสภากาชาดไทย เพื่อศึกษาวิจัยควบคุมการระบาดของโรค โดยสามารถเพาะแยกเชื้อจากผู้ป่วยโควิด-19 และเลี้ยงเชื้อได้ตั้งแต่ระยะแรกของการระบาดในประเทศไทย โดยได้มีส่วนในโครงการวิจัยโรคดังกล่าวหลากหลายโครงการ ทั้งการพัฒนาวิธีการตรวจเซรุ่มเพื่อทดสอบแอนติบอดี้ลบล้างฤทธิ์ ซึ่งปัจจุบันได้ตรวจหาระดับแอนติบอดี้ลบล้างในเลือดผู้ป่วยที่หายจากโรคแล้วเพื่อนำไปใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง ทั้งยังนำเอาความรู้พื้นฐานไปช่วยพัฒนานวัตกรรมชุดตรวจวินิจฉัยเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 พร้อมนำศักยภาพของห้องปฏิบัติการชีวะนิรภัยระดับ 3 มาช่วยพัฒนชุด RT-LAMP ในระยะแรก พร้อมทั้งให้คำปรึกษาในกระบวนการบ่มเพาะเทคโนโลยีกับบริษัทสตาร์ทอัพเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุดตรวจทางการแพทย์ที่มีมาตรฐานและผ่านการรับรองโดยหน่วยงานของรัฐ
นอกจากนี้ ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาแพลตฟอร์มการคัดกรองยาต้านเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยใช้เทคนิคอิมมูโนฟลูออเรสเซนส์ ซึ่งพบว่า สารสกัดจากกระชายขาวและสารสำคัญ 2 ชนิด มีศักยภาพในการยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัส SARS-CoV–2 ได้เกือบ 100% พัฒนาวัคซีนอาร์เอนเอเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งมีแผนที่จะผลิตและทดสอบในประเทศไทยทั้งหมด อีกทั้ง ได้ร่วมศึกษาการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางพันธุกรรมของไวรัสชนิดที่พบในรายงานทั่วโลกและในประเทศที่อาจะมีผลต่อภูมิต้านทานของวัคซีน รวมถึงดูความสัมพันธ์ของการเปลี่ยนแปลงทางรหัสพันธุกรรมกับความรุนแรงของโรค โดยการดำเนินการของโครงการทั้งหมด เชื่อว่าจะนำไปสู่ทางออกที่มีประสิทธิภาพให้กับประเทศและขยายสู่ระดับโลกในการต่อสู้กับโรคโควิด-19