วันที่ 16 กรกฎาคม 2563 มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ลงนามความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาด้านสุขภาพและการแพทย์ พร้อมแถลงข่าว การพัฒนาวิธีสกัดอาร์เอ็นเอของเชื้อไวรัสจากตัวอย่างแบบง่ายและรวดเร็ว และชุดตรวจ COVID-19 ด้วยเทคนิคแลมป์เปลี่ยนสีในขั้นตอนเดียว (COVID-19 XO-AMP colorimetric detection kit) โดยมี ศาสตราจารย์ นายแพทย์ บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ดร.วรรณพ วิเศษสงวน ผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ วีระพงษ์ ภูมิรัตนประพิณ คณบดีคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมแถลงข่าว ณ โถงอาคาร C ชั้น 1 อาคารกลุ่มนวัตกรรม 2 (INC2) อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ความร่วมมือในการพัฒนาวิธีสกัดอาร์เอ็นเอของเชื้อไวรัสจากตัวอย่างแบบง่ายและรวดเร็ว และชุดตรวจ COVID-19 XO-AMP colorimetric detection kit โดยมีคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้ดำเนินการวิจัยและพัฒนาร่วมกับไบโอเทค สวทช. เป็นการดำเนินการเพื่อตอบสนองระบบสาธารณสุขของประเทศที่ขณะนี้ได้รับผลกระทบอย่างมาก จากปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ Covid-19 ความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาด้านสุขภาพ และการแพทย์ จึงมีความจำเป็นอย่างมากและเป็นเรื่องเร่งด่วน มหาวิทยาลัยมหิดลมีนโยบายในการสนับสนุนทุกส่วนงานของมหาวิทยาลัย รวมทั้งสนับสนุนให้อาจารย์นักวิจัย นักวิชาการ ได้มีการผลิตผลงานนวัตกรรม หรืองานวิจัย ที่สามารถต่อยอดออกไปเป็นผลงานที่สามารถแก้ปัญหาของประเทศได้อย่างตรงเป้าหมาย และงานวิจัยครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญทางด้านการแพทย์ การสาธารณสุขที่ช่วยแก้ปัญหาของประเทศได้อย่างตรงจุด และรวดเร็ว
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ วีระพงษ์ ภูมิรัตนประพิณ คณบดีคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงบทบาทของคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ในการพัฒนางานวิจัยร่วมกับ สวทช. โดยได้มีการร่วมหารือและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ต่าง ๆ ในการวินิจฉัย การรักษาและป้องกันโรค โดยคณะฯ มีห้องปฏิบัติการอ้างอิงด้านโรคเขตร้อน (Tropical Medicine Diagnostic Reference Laboratory) หรือ TMDR โดยเป็นเครือข่ายตรวจ SARS-CoV-2 ที่ผ่านการทดสอบจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และได้รับรองคุณภาพห้องปฏิบัติการ รวมทั้ง ผู้ป่วยของโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน ได้ให้ความร่วมมือในการเป็นตัวอย่างของงานวิจัยครั้งนี้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน ทีมนักวิจัย สวทช. ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านการตรวจวินิจฉัย และป้องกันโรคได้ จนพัฒนาต่อยอดให้เป็นงานวิจัยเชิงพาณิชย์ 2 โครงการ ได้แก่ ชุดสกัด RNA จาก magnetic beads และ การตรวจวินิจฉัยโรค COVID-19 โดย LAMP technique
การพัฒนาชุดตรวจโรค COVID-19 ด้วยเทคนิคแลมป์เปลี่ยนสีในขั้นตอนเดียว หรือ COVID-19 XO-AMP colorimetric detection kit โดยทีมนักวิจัยได้พัฒนาสูตรน้ำยาขึ้น ด้วยการนำเอาเทคนิคแลมป์ หรือ Loop-mediated isothermal amplification (LAMP) มาใช้ร่วมกับสีบ่งชี้ปฏิกิริยา Xylenol Orange หรือ XO เพื่อให้สามารถอ่านผลการตรวจได้ด้วยตาเปล่า โดยสังเกตจากสีที่เปลี่ยนไปเมื่อมีการเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรมของไวรัส SARS-CoV-2 ด้วยเทคนิคแลมป์ในหลอดทดสอบ โดยหากมีการติดเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 สีของสารละลายจะเปลี่ยนจากสีม่วงเป็นสีเหลือง แต่ถ้าไม่มีการติดเชื้อ สีของสารละลายจะยังคงเป็นสีม่วง เทคนิคแลมป์เปลี่ยนสีในขั้นตอนเดียวนี้ มีความไว ความจำเพาะและความแม่นยำสูง เป็นการทำงานแบบขั้นตอนเดียว ที่ไม่ยุ่งยาก และใช้เวลาทดสอบเพียง 75 นาที นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาชุดตรวจควบคุมภายใน COVID-19 Internal Control colorimetric detection kit เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นว่าอาร์เอ็นเอที่สกัดจากตัวอย่างส่งตรวจซึ่งมีข้อแตกต่างจากชุดตรวจโรค COVID-19 ที่มีอยู่ทั่วไปถือเป็นความร่วมมือทางการแพทย์ในการสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาของมหาวิทยาลัยมหิดล ด้านนวัตกรรมและงานวิจัยด้านสาธารณสุข ในการผลิตชุดตรวจประสิทธิภาพสูง มาใช้ตรวจสอบโรคได้มากขึ้น เพื่อช่วยในการป้องกัและเป็นแรงสนับสนุนในการจัดการขอโรค COVID-19 ได้ดีมากขึ้น