วันที่ 15 ธันวาคม 2563 ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานกล่าวเปิดการอบรม พร้อมบรรยายในหัวข้อ “ความสำคัญของ University Ranking และบทบาทของนักวิจัยรุ่นใหม่” ให้แก่ผู้เข้าร่วมอบรม “โครงการติดอาวุธให้นักวิจัยรุ่นใหม่ ผ่าน Multi Mentoring System” รุ่นที่ 6 ณ ห้อง Grand Ballroom ศูนย์ประชุมมหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา
ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง กล่าวว่า ภารกิจหลักของมหาวิทยาลัยมหิดลคือ การเรียนการสอน ซึ่งจะต้องบ่มเพาะให้นักศึกษาที่จบการศึกษาออกไปอย่างมีคุณภาพ ที่สำคัญคือ นักเรียนจะต้องเป็นคนดีและเก่ง ในฐานะที่เป็นมหาวิทยาลัยเราจะต้องทำหน้าที่พัฒนาให้นักศึกษาสามารถดำรงอยู่ได้ในโลกปัจจุบัน ต้องพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคม เนื่องจากในยุคปัจจุบันมีเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง เราจึงจำเป็นต้องเรียนรู้และทันต่อเทคโนโลยีที่เข้ามา สามารถเป็นกำลังและทรัพยากรที่สำคัญของประเทศต่อไปได้ และอีกหนึ่งบทบาทหน้าที่ของมหาวิทยาลัยมหิดลที่สำคัญอีกประการ คือ การดำเนินงานผลงานวิจัยและนวัตกรรม ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ หรือสร้างรายได้ให้กับประเทศ การคิดค้นการรักษาที่สามารถตอบสนองต่อปัญหาของประเทศที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้ ซึ่งภารกิจของมหาวิทยาลัยจะสามารถบรรลุได้นั้นจะต้องอาศัยอาจารย์ นักวิจัย และบุคลากรทุกท่านช่วยผลักดันให้มหาวิทยาลัยมหิดลไปสู่ TOP 100 World Class University ในปี 2030 ได้
ศาสตราจารย์ นายแพทย์วชิร คชการ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและวิชาการ มหาวิทยาลัยมหิดล บรรยายในหัวข้อ “ความก้าวหน้าของอาจารย์และนักวิจัยในมหาวิทยาลัย” โดยได้ให้คำแนะนำในการก้าวสู่ตำแหน่งทางวิชาการ ว่า ความก้าวหน้าของอาจารย์และนักวิจัยนั้น เปรียบเสมือนบันไดทางวิชาชีพที่จะนำท่านไปสู่การมีตำแหน่งทางวิชาการ โดยเป็นตำแหน่งที่แสดงถึงความเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มีคุณธรรมและจรรยาบรรณในการสอน การวิจัยและวิชาการ ซึ่งทุกท่านจะต้องมี 3 การด้วยกัน คือ การเตรียมใจ เข้าใจความหมายของตำรา งานวิจัยและเข้าไปศึกษาข้อมูล ลดอคติ ให้ความสำคัญ และที่สำคัญ คือ จะต้องสร้างความมุ่งมั่นและกำหนดจุดมุ่งหมายให้กับตัวเอง การเตรียมตัว จัดลำดับความสำคัญ ศึกษากฎระเบียบ สอบถามผู้รู้ และหากยังไม่สำเร็จจะต้องไม่ท้อแท้ ต้องลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง การเตรียมงาน สื่อการเรียนการสอน บทความทางวิชาการ หาว่าเราต้องการตีพิมพ์ที่ไหน ระดับประเทศ หรือนานาชาติ โดยสิ่งที่สำคัญอีกประการในการก้าวสู่ตำแหน่งทางวิชาการนั้น คือ เราจะต้องหา “พี่เลี้ยง (Mentor)” หรือเครือข่ายระหว่างนักวิจัยรุ่นใหม่และนักวิจัยพี่เลี้ยง ที่จะคอยเป็นให้คำปรึกษา คำชี้แนะ ข้อมูลต่างๆ ที่เราอาจจะยังไม่เข้าใจ คอยหล่อหลอม และช่วยให้เราประสบผลสำเร็จในการดำรงตำแหน่งทางวิชาการต่อไปได้ นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายหัวข้อ “How to write a good review article” โดย Prof. Duncan R. Smith, Ph.D. สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล และการบรรยายในหัวข้อ “นโยบายและทุนเพื่อสนับสนุนนักวิจัยรุ่นใหม่” โดย นางสาวเกศรา เอกอุดมพงศ์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ชำนาญการพิเศษ ภารกิจพัฒนาเส้นทางอาชีพนักวิจัยและนวัตกรรม และการสนับสนุนการวิจัยเชิงวิชาการ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ
ในภาคบ่ายเป็นการเสวนาในหัวข้อ “ทิศทางการสร้างงานวิจัยแบบบูรณาการให้ตอบโจทย์ประเทศ และการสร้างเครือข่ายวิจัยระดับนานาชาติ” โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร. รัศมี ชูทรงเดช มหาวิทยาลัยศิลปากร และ รองศาสตราจารย์ ดร. โธมัส กวาดามูซ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิจัยและวิชาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เข้าร่วมการเสวนา รวมทั้งมีการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “เทคนิคการเขียนข้อเสนอโครงการอย่างไรให้ได้รับทุน: วิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ และนำผลงานไปใช้ประโยชน์” โดย รองศาสตราจารย์ ดร. นายสัตวแพทย์กำลัง ชุมพลบัญชร ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิทยาเขตกาญจนบุรี และรองศาสตราจารย์ ดร. โธมัส กวาดามูซ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิจัยและวิชาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นวิทยากร
มหาวิทยาลัยมหิดล มีวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลก มีพันธกิจหลักในการสนับสนุนและส่งเสริมการทำวิจัยที่มีคุณภาพระดับสากลเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยและสังคมโลก ตามแผนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล 20 ปี ยุทธศาสตร์ที่ 1 Global Research and Innovation มีกลยุทธ์มุ่งเน้นสร้างกลุ่มวิจัย สร้างระบบสนับสนุนการวิจัยที่ครบวงจร และส่งเสริมนวัตกรรม ที่ทำให้เกิดการสร้างผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ ในสังคมและเชิงพาณิชย์ จึงจัด “โครงการติดอาวุธให้นักวิจัยรุ่นใหม่ผ่าน Multi Mentoring System” รุ่นที่ 6 ขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 17 ธันวาคม 2563 เพื่อเตรียมความพร้อมและพัฒนาอาจารย์ นักวิจัยให้มีความสามารถดำเนินงานด้านการวิจัย สามารถสร้างสรรค์งานวิจัยคุณภาพสูงเพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดในระดับชาติ และระดับสากล โดยเป็นการให้ความรู้ ความเข้าใจ สร้างทักษะ ในการสร้างสรรค์ผลงานวิจัยที่มีคุณภาพระดับสากล และสามารถดำเนิการทำงานวิจัยร่วมกับภาคเอกชนได้ อีกทั้งให้อาจารย์ นักวิจัยรุ่นใหม่ เข้าใจระบบพี่เลี้ยง (Mentoring System) และสามารถจัดทำข้อเสนอโครงการวิจัยเพื่อขอรับทุนจากแหล่งทุนต่างๆ ได้