23 พฤษภาคม 2562 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอื้อมพร มัชฌิมวงศ์ รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายการคลัง มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานเปิดอบรมเชิงปฏิบัติการ “โครงการจัดอบรมให้ความรู้ด้านการเงิน ด้านบัญชีบริหารการวางแผนการเงินล่วงหน้า (Budgeting) หลักสูตรที่ 1 การเงินสำหรับผู้บริหาร รุ่นที่ 2″ กล่าวรายงาน โดย นายปัญญา ธำรงธีระกุล ผู้อำนวยการศูนย์บริหารสินทรัพย์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยมีผู้บริหารมหาวิทยาลัยเข้าร่วมการอบรม ได้แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เรืออากาศโท ทันตแพทย์ชัชชัย คุณาวิศรุต รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งการอบรมในครั้งนี้มีกำหนดจัดระหว่างวันที่ 23 – 24 พฤษภาคม 2562 ณ ห้องประชุม 411 ชั้น 4 ศูนย์การเรียนรู้มหิดล มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ คือ อาจารย์ธนเดช มหโภไคย ร่วมกับ บริษัท ฝึกอบรมและสัมมนาธรรมนิติ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการจัดหลักสูตรอบรมขึ้น
ศูนย์บริหารสินทรัพย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้จัดสรรงบประมาณปี 2562 จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพด้านการบริหารการเงิน สำหรับผู้บริหาร หัวหน้าส่วนงาน และบุคลากรระดับปฏิบัติการ โดยในวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 กำหนดจัดอบรมในหัวข้อ “หน้าที่และความรับผิดชอบของงานบริหารการเงิน” ”งบการเงินและประเภทงบการเงิน” “การอ่านและทำความเข้าใจเกี่ยวกับงบการเงิน (งบแสดงฐานะทางการเงิน งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสด)” และ “การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและแปลความหมาย” และในวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 จัดอบรมในหัวข้อ “การบริหารงบประมาณ” “การวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายคงที่” “ค่าใช้จ่ายผันแปรพื้นฐาน” “การบริหารเงินทุนหมุนเวียน และสภาพคล่อง” “ความสำคัญของงบประมาณเงินสด” “ต้นทุนของเงินทุนจากแหล่งต่างๆ” และ “ภาพรวมการบริหารโครงการ และตัวชี้วัด”
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอื้อมพร มัชฌิมวงศ์ รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายการคลัง มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า จากรายงานที่ผู้อำนวยการศูนย์บริหารสินทรัพย์กล่าวมานั้น มหาวิทยาลัยมหิดลได้ตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพให้กับผู้บริหารมหาวิทยาลัยทุกระดับ ให้มีความรู้ความเข้าใจ การตระหนักถึงประเด็นสำคัญที่ควรให้ความสนใจเมื่อต้องการใช้ข้อมูลในงบการเงิน ข้อจำกัดในการใช้ สัญญาณเตือนภัยเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น น่าจะทำให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพในการอ่านงบการเงิน ทั้งงบแสดงฐานะทางการเงิน งบกำไรขาดทุน และงบกระแสเงินสด จนสามารถวิเคราะห์และแปลความหมายตีความ ตัวเลขในงบการเงิน เพื่อประโยชน์ในเชิงบริหาร ตลอดจนสามารถวิเคราะห์ฐานะการเงินของส่วนงาน และผลการดำเนินงานของแต่ละส่วนงานได้